Quantcast
Channel: Ford Everest Archives - รถใหม่ 2025-2026 รีวิวรถ, ราคารถใหม่, ข่าวรถใหม่, รถยนต์
Viewing all 35 articles
Browse latest View live

Ford ออสเตรเลียเตรียมทำรถแบบ “Everest concept”เพิ่มเติม

$
0
0
Ford ออสเตรเลียเตรียมทำรถแบบ “Everest concept” เพิ่มเติม ค่ายรถยักษ์ใหญ่ของโลกอย่าง Ford นั้นได้ทำการเพิ่มจำนวนฐานการผลิตในประเทศออสเตรเลียแล้วด้วยการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ที่เต็มไปด้วยความทรงพลังในระดับที่ทุกฝ่ายนั้นต้องการอย่างเจ้า “Everest concept” โดยล่าสุดนั้นทาง CEO ของพวกเขาอย่าง  Alan Mulally ได้เผยว่าในออสเตรเลียตอนนี้จะพิจารณาการนำรถรุ่นยอดนิยมมาขายภายในปี 2017 ยกตัวอย่างเช่นรุ่น  Mondeo, Mustang, Fiesta ST, EcoSport และ Transit นอกจากนี้พวกเขายังได้เปิดตัวแนวคิดแบบ Everest concept  ในออสเตรเลียเพิ่มเติมก่อนนำเสนอออกสู่ตลาดโลกในรูปแบบ SUV...

Ford เตรียมผลิตรถแบบ Everest SUV ภายในปี 2015 ในประเทศไทย

$
0
0
Ford เตรียมผลิตรถแบบ Everest SUV ภายในปี 2015 ในประเทศไทย มหาอำนาจยักษ์ใหญ่ของโลกยานยนต์อย่าง The Blue Oval ประจำประเทศ Australia นั้นได้ทำการประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่าพวกเขาจะทำการเปิดตัวการผลิตรถแบบ SUV ขนาดกลางรุ่นใหม่ของเขาแล้ว ซึ่งมันจะทำการผลิตในประเทศไทยและจะส่งออกไปขายยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอินเดีย สำหรับตัวรถนั้นจะถูกออกแบบและกำหนดไลน์การผลิตโดยทางทีมงานของ ฟอร์ด ใน Australia ซึ่งพวกเขาวางแผนไว้ให้มันภายในปี 2015 ก่อนที่จะทำการผลิตรถแบบ Falcon sedan ในปี 2016 ต่อไป ก่อนหน้านี้รถแบบ...

ใหม่ Ford Everest 2013-2014 ราคา ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ตารางราคา-ผ่อน-ดาวน์

$
0
0
ใหม่ Ford Everest 2013-2014 ราคา ฟอร์ด เอเวอเรสต์  ตารางราคา-ผ่อน-ดาวน์ Ford Everest การเดินทางครั้งใหม่ที่พร้อมสรรพสำหรับทุกครอบครัว ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ สุดยอดรถ SUV สำหรับครอบครัวตัวจริง มาพร้อมรูปโฉมที่แข็งแกร่งและโฉบเฉี่ยวด้วยฝากระโปรงหน้าทรงพาวเวอร์โดม กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวในตัวแบบ LED และฝาครอบล้ออะไหล่ดีไซน์แกร่ง ราคา Ford Everest  ราคา Ford Everest ฟอร์ด เอเวอเรสต์  2.5L 4X2...

โปรโมชั่น ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ดอกเบี้ย 0% ฟรี ประกันภัยชั้น 1

$
0
0
โปรโมชั่น ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ทุกรุ่น ดอกเบี้ย 0% ฟรี ประกันภัยชั้น 1 โปรโมชั่น FORD EVEREST ดอกเบี้ย 0% ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง* *สำหรับเอเวอเรสต์ ทุกรุ่น เมื่อดาวน์ 25% ผ่อนนาน 48 เดือนและเช่าซื้อผ่าน ฟอร์ด ลีสซิ่ง เท่านั้น วันนี้ – 31 ธันวาคม 2556...

โปรโมชั่น FORD EVEREST ดอกเบี้ย 0% ฟรีประกันภัยชั้น 1

$
0
0
โปรโมชั่น FORD EVEREST ดอกเบี้ย 0% ฟรีประกันภัยชั้น 1 โปรโมชั่น ฟอร์ด เอเวอเรสต์ รับอัตราดอกเบี้ย 0% (ดาวน์ 25% ผ่อนนาน 48 เดือน) พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง*** ***เมื่อเช่าซื้อผ่าน ฟอร์ด ลีสซิ่ง เท่านั้น วันนี้ – 28 กุมภาพันธ์ 2557 ที่โชว์รูมฟอร์ด ทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม...

ฟอร์ด รับรางวัล “Concept Car Joins to The Show Award” จากฟอร์ด เอเวอเรสต์

$
0
0

ฟอร์ด รับรางวัล “Concept Car Joins to The Show Award” จากฟอร์ด เอเวอเรสต์

นายแมท แบรดลีย์ ประธานฟอร์ด อาเซียน (ที่ 2 จากขวา) และ น.ส. ยุคนธร วิเศษโกสิน กรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย (ขวา) รับรางวัล “Concept Car Joins to The Show Award” จาก ดร. ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และประธานการจัดงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 35  (ที่ 2 จากซ้าย) และนายจาตุรนต์ โกมลมิศร์ รองประธานบริหารอาวุโส บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และรองประธานจัดงานฯ ทั้งนี้ ฟอร์ดได้รับรางวัล “Concept Car Joins to The Show Award” จากฟอร์ด เอเวอเรสต์ คอนเซ็ปต์ รถอเนกประสงค์ขนาดกลางแบบเจ็ดที่นั่ง ที่ออกแบบมาสำหรับตลาดอาเซียนและตลาดโลก โดยรถรุ่นดังกล่าวจะผลิตในประเทศไทย และเปิดตัวครั้งแรกในภูมิภาคอาเซียนภายในงาน Motor Show 2014 ณ อิมแพค เมืองทองธานี

Ford มั่นใจเปิดตัว “Everest Concept”แน่นอนแล้วเร็วๆนี้

$
0
0

Ford มั่นใจเปิดตัว “Everest Concept” แน่นอนแล้วเร็วๆนี้


The Blue Oval เครือรถยักษ์ใหญ่ของโลกนั้นได้เปิดตัวรถอย่าง “Everest SUV” ขนาดใหญ่ออกมาแล้วในงานอย่าง  Beijing Auto Show เพื่อจะเดินหน้าตีตลาดทวีปเอเชียให้ได้

โดยรถของทาง Ford  คันนี้พวกเขาจะจับมือกับพาร์ทเนอร์ในประเทศจีนอย่างทาง “JMC” และออกแบบการตกแต่งโดยทีมงานภาคพื้นเอเชียหรือ Ford’s Asia Pacific design และทีมวิศวกรจากประเทศออสเตรเลีย

“รถแบบ  Ford Everest Concept นั้นถูกสร้างโดยทีมงานออกแบบของเราที่อาศัยอยู่ทวีปออสเตรเลีย โดยเราตั้งใจจะให้เจ้ารถแบบ SUV คันนี้นั้นตีตลาดเอเชียให้ได้” John Lawler ประธานของ Ford China เผย

“ในรถรุ่นนี้พวกเราได้ใส่ทั้งความสวยงามน่าใช้, วัสที่ช่วยเพิ่มความหรูหรารวมไปถึงตัวรถที่คงทนไปทั้งหมดแล้ว ซึ่งหวังว่า Ford Everest Concept คันนี้จะช่วยเพิ่มยอดขายให้เราได้” เขาพูดทิ้งท้าย

ฟอร์ดเผยเบื้องหลังการพัฒนาเอสยูวีรุ่นล่าสุดด้วยระบบการพัฒนาผลิตภัณฑ์ระดับโลกและผู้เชี่ยวชาญในกลุ่มรถยนต์นั่งแบบอเนกประสงค์โดยเฉพาะ

$
0
0

ฟอร์ดเผยเบื้องหลังการพัฒนาเอสยูวีรุ่นล่าสุด
ด้วยระบบการพัฒนาผลิตภัณฑ์ระดับโลก
และผู้เชี่ยวชาญในกลุ่มรถยนต์นั่งแบบอเนกประสงค์โดยเฉพาะ

  • ฟอร์ด เอเชียแปซิฟิก พร้อมเผยให้เห็นเบื้องหลังการพัฒนารถเอสยูวีระดับโลกรุ่นล่าสุดที่จะพลิกประวัติศาสตร์รถในตระกูลเอสยูวี และจะเป็นกุญแจสำคัญต่อกลยุทธ์การเติบโตของฟอร์ดในตลาดโลก
  • ทีมวิศวกรและนักออกแบบของฟอร์ด ได้รับฟังความคิดเห็นและความต้องการของผู้บริโภคในทุกขั้นตอน เพื่อสร้างสรรค์รถที่ตอบโจทย์ความต้องการและอยู่เหนือความคาดหวังของลูกค้า
  • ทีมนักออกแบบก้าวข้ามข้อจำกัดของโลกยานยนต์ด้วยการแสวงหาแรงบันดาลใจเพิ่มเติมจากหลากหลายแหล่งก่อนเริ่มร่างแบบและสานต่อภาพร่างสองมิติให้กลายเป็นรถต้นแบบ
  • เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ช่วยประหยัดเวลาการทำงานและเปิดโอกาสให้ทีมงานทั่วโลกได้ออกแบบ ทดสอบ และตรวจสอบรถเสมือนจริงก่อนการผลิต
  • ฟอร์ดได้ผลิตรถต้นแบบถึง 200 คัน เพื่อบุกตะลุยในทุกสนามทดสอบทั่วโลก รวมระยะทางทั้งสิ้นกว่า 1 ล้านกิโลเมตร

เมลเบิร์น, ออสเตรเลีย 25 สิงหาคม 2557  ก่อนที่จะแนะนำรถเอสยูวี ใหม่ ระดับโลกออกสู่ถนนจริงนั้น ฟอร์ด รู้ดีว่ากลุ่มลูกค้าจะเป็นใคร  ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์หรือรถกระบะรุ่นใหม่กระบวนการพัฒนารถของฟอร์ดจะเริ่มจากความต้องการของลูกค้าก่อนเสมอ

เพื่อตอบสนองกับความต้องการของผู้บริโภคที่มีต่อรถอเนกประสงค์ในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2556 มีอัตราการเติบโตของเซกเม้นต์นี้อยู่ที่ 13 เปอร์เซ็นต์ และมีแนวโน้มที่จะยังคงเติบโตอีกอย่างรวดเร็ว ฟอร์ดจึงได้พัฒนาเอสยูวีอัจฉริยะสายพันธุ์ใหม่ที่มีความแข็งแรงและยืดหยุ่นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ผลลัพธ์ก็คือรถระดับโลกรุ่นใหม่ที่สามารถแข่งกับคู่แข่งและตอบโจทย์ความคาดหวังของผู้บริโภค รวมถึงเป็นกุญแจสำคัญต่อกลยุทธ์การเติบโตของฟอร์ดทั่วโลก

SUV รุ่นล่าสุดนี้ จะได้รับการพัฒนาขึ้นจากทักษะความเชี่ยวชาญในการพัฒนารถเอสยูวีระดับตำนานของฟอร์ด ในฐานะผู้ผลิตรถอเนกประสงค์อันดับสองของโลก ทั้งนี้ ยอดขายเอสยูวีของฟอร์ดสูงกว่าภาพรวมอุตสาหกรรมโลกในปี  2556 ด้วยยอดขายที่เพิ่มขึ้น 35 เปอร์เซ็นต์หรือมากกว่า 1.2 ล้านคัน

ผลการวิจัยพบว่า ลูกค้าในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกต้องการเอสยูวีที่สมบุกสมบันและทรงพลังในการขับเคลื่อนแบบออฟโรด แต่ก็สามารถมอบความยืดหยุ่นและความสะดวกสบายในการใช้งานในชีวิตประจำวัน พวกเขาต้องการดีไซน์ที่สื่อถึงความแข็งแกร่งรวมถึงภายในที่ชาญฉลาด และมีพื้นที่กว้างขวางสำหรับครอบครัวและเพื่อนๆ นอกเหนือจากความสบายระดับพรีเมี่ยม ลูกค้าทุกคนยังต้องการยานพาหนะที่มีแอโรไดนามิคส์และประหยัดน้ำมัน

“เมื่อมองความต้องการของตลาดในปัจจุบัน เราเล็งเห็นโอกาสในการเจาะตลาดผู้บริโภคกลุ่มใหม่ที่ต้องการรถอเนกประสงค์ที่มีความแข็งแกร่งสมบุกสมบัน แต่ยังให้ความสะดวกสบายทั้งเวลาขับขี่ในเมืองหรือใช้บุกป่าฝ่าดงขณะเดินทางไกล” นายจิม ฮอลแลนด์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรม ฟอร์ด เอเชียแปซิฟิก กล่าว

“เราได้ก้าวผ่านความท้าทายโดยการใช้ศักยภาพความเชี่ยวชาญจากแผน One Ford ซึ่งเป็นแผนงานระดับโลกของฟอร์ดอย่างเต็มที่ เราได้ผลิตรถที่ได้สร้างความคาดหวังใหม่ให้รถยนต์กลุ่มนี้ พร้อมทั้งตอกย้ำความเป็นผู้นำและความแข็งแกร่งของผลิตภัณฑ์เอสยูวีในตลาดโลก เราหวังว่ารถรุ่นล่าสุดจะเป็นรถรุ่นสำคัญในกลยุทธ์การเติบโตของฟอร์ด โดยเราจะยังคงเปิดตัวรถอเนกประสงค์ขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ทั่วโลก”

รับฟังความคิดเห็นของลูกค้า

การเดินทางเริ่มต้นจากการที่ฟอร์ดได้ทุ่มเทศึกษาความต้องการและความคาดหวังของผู้บริโภคเพื่อนำมาตั้งเป้าหมายการออกแบบสำหรับเอสยูวีรุ่นล่าสุดนี้  การศึกษาวิจัยอย่างรอบด้านคือขั้นตอนแรกในการพัฒนารถอเนกประสงค์รุ่นนี้และนับเป็นงานวิจัยที่ครบวงจรที่สุดเท่าที่ฟอร์ดเคยทำมาในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

“ในช่วงเริ่มต้น ลูกค้าได้บอกสิ่งที่พวกเขาต้องการในรถคันใหม่ หลังจากนั้นเราได้ให้ความสำคัญและทบทวนผลตอบรับของผู้บริโภคในทุกขั้นตอนการผลิตเพื่อให้มั่นใจได้ว่าเราจะผลิตรถที่ตอบสนองตรงกับความต้องการของผู้บริโภคอย่างแท้จริง” นายเอียน ฟอสตัน หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมรถอเนกประสงค์ กล่าว  “ในภูมิภาคที่มีความหลากหลายเช่นภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ความต้องการและความคาดหวังของแต่ละตลาดมีความเฉพาะตัวมาก  จึงเป็นสิ่งสำคัญมากที่เราต้องทำความเข้าใจความต้องการเหล่านั้นอย่างแท้จริง”

ตลาดในประเทศจีนมีความสำคัญเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ  เนื่องจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่มีความสนใจในรถเอสยูวีขนาดกลางในประเทศจีนมีสัดส่วนสูงกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ของกลุ่มตัวอย่างที่ฟอร์ดทำการสำรวจทั้งหมด อย่างไรก็ตาม เนื่องจากรถเอสยูวีรุ่นล่าสุดเป็นรถที่มีแนวโน้มเป็นที่ต้องการของทุกตลาดทั่วโลก นักออกแบบและวิศวกรจากฟอร์ดจึงได้เก็บข้อมูลความต้องการของลูกค้าจากทุกมุมโลก

นำแรงบันดาลใจสู่ชีวิตจริง

หลังจากจบการวิจัยขั้นต้น ทีมนักออกแบบได้เริ่มร่างสิ่งที่พวกเขาคิดว่ารถเอสยูวีรุ่นใหม่ล่าสุดระดับโลกควรจะเป็นตั้งแต่ภายในจรดภายนอก นอกจากนี้ ทีมนักออกแบบของฟอร์ดยังได้ก้าวข้ามข้อจำกัดของโลกยานยนต์ โดยหาแรงบันดาลใจเพิ่มเติมจากงานสถาปัตยกรรม ภาพไลฟสไตล์ และผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภค

ทีมนักออกแบบของฟอร์ดจากศูนย์ออกแบบประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ได้ตั้งเป้าหมายในการออกแบบที่เน้นความสมดุล ผสานความสมบุกสมบัน สมรรถนะ และความแข็งแกร่งเข้ากับความหรูหราและความประณีต รถต้นแบบ เอเวอร์เรสต์ คอนเซ็ปต์ ที่จัดแสดงในงานมหกรรมยานยนต์ในกรุงเทพฯ และปักกิ่ง เป็นรถที่แสดงถึงการออกแบบขั้นตอนสุดท้ายของพวกเขาได้เป็นอย่างดี

“เราต้องการการออกแบบที่สามารถสะท้อนสมรรถนะสมบุกสมบันแบบออฟโรด แต่ในขณะเดียวกันก็มีดีไซน์ล้ำสมัยที่แตกต่างไปจากเดิม” นายเดวิด เดอวิตต์ ผู้จัดการฝ่ายการออกแบบตัวถังภายนอกของรถอเนกประสงค์ ฟอร์ด ออสเตรเลีย กล่าว “ สิ่งที่เรากำลังสื่อสารคือคุณสามารถมีรถที่ทรงพลัง แต่ยังคงความหรูหราและทันสมัยได้ในขณะเดียวกัน นอกจากนี้ เรายังให้ความสำคัญกับดีเอ็นเอของฟอร์ดรวมถึงการนำเอาความเชี่ยวชาญด้านเอสยูวีที่มีอยู่มาใช้ เพื่อผลิตรถที่สะท้อนถึงความเป็นฟอร์ดได้ดีที่สุด”

หลังจากได้นำความคิดเห็นของลูกค้ามาปรับใช้ ทีมออกแบบของฟอร์ดจึงได้สานต่อภาพร่างสองมิติให้กลายเป็นโมเดลสามมิติด้วยดินปั้นที่มีคุณสมบัติคล้ายขี้ผึ้งและมีความนุ่มในอุณหภูมิอุ่น ดินปั้นเป็นวัสดุที่เหมาะสมในการถ่ายทอดดีไซน์ภายในและภายนอก นอกจากนี้  เมื่อมองในระยะใกล้ รายละเอียดของโมเดลที่สร้างเสร็จจนับว่ามีความคล้ายคลึงกับรถยนต์ที่ผลิตออกมาเลยทีเดียว

ปรับแก้ทุกปัญหาเสมือนจริง

ในขณะที่ทีมออกแบบทำการร่างแบบและขึ้นโมเดล ทีมวิศวกรฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ทุ่มเทเวลาในการออกแบบโครงสร้างเพื่อให้มั่นใจว่ารถอเนกประสงค์คันนี้ สามารถตอบโจทย์ความเป็นรถสมบุกสมบันที่มีดีไซน์สวยงามได้เป็นอย่างดี

ด้วยความทันสมัยของวิศวกรรมการใช้คอมพิวเตอร์ช่วยวิเคราะห์การผลิต (computer-aided engineering หรือ CAE) ฟอร์ดจึงสามารถปรับปรุงการออกแบบ ความปลอดภัย และอีกหลายๆ ส่วนที่เกี่ยวกับส่วนต่อประสานคนกับรถก่อนที่รถคันแรกจะผลิตออกมา ระบบวิศวกรรมแบบเสมือนจริงสามารถลดเวลาการพัฒนารถและลดค่าใช่จ่ายที่อาจเกิดขึ้นในกระบวนการพัฒนา โดยการจำลองทุกองค์ประกอบและระบบภายในรถโดยละเอียด

“ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา วิศวกรรมการใช้คอมพิวเตอร์ช่วยวิเคราะห์การผลิตได้พัฒนาอย่างรวดเร็วโดยเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการวิศวกรรมยานยนต์” นายเอียน ฟอสตัน กล่าว “ในอดีต เราต้องผลิตรถต้นแบบขึ้นมาหลายร้อยคันซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการวิศวกรรมยานยนต์  แต่ทุกวันนี้ เราสามารถใช้ประโยชน์จากกระบวนการนี้และส่วนประกอบเสมือนจริง ทำให้รถต้นแบบที่ผลิตออกมามีความใกล้เคียงกับรถที่เสร็จสมบูรณ์มากขึ้น”

วิศวกรรมการใช้คอมพิวเตอร์ช่วยวิเคราะห์การผลิตช่วยแก้ปัญหาความท้าทายด้านการออกแบบในรถขนาดใหญ่ได้ด้วยการวิเคราะห์การต้านลมแบบเสมือนจริง ทีมแอโรไดนามิคส์สามารถพัฒนาเอสยูวีที่มีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศพลศาสตร์ต่ำที่สุดในท้องตลาด

เพื่อเพิ่มความปลอดภัย ทีมวิศวกรรมการใช้คอมพิวเตอร์ช่วยวิเคราะห์การผลิตจำลองโครงสร้างภายในห้องโดยสารที่มีความแข็งแกร่งและจำลองการชนแบบเสมือนจริงหลายพันครั้ง การจำลองในแต่ละครั้งนับว่ามีรายละเอียดเยอะมากจนคอมพิวเตอร์ธรรมดาต้องใช้เวลาถึง 12 เดือนในการประเมินผล แต่การนำซุปเปอร์คอมพิวเตอร์อันอัจฉริยะมาใช้ ทำให้ฟอร์ดจำลองการชนแบบเสมือนจริงแต่ละครั้งได้ในเวลาเพียง 2-4 ชั่วโมง

ฟอร์ดยังได้ใช้ห้องทดลองฟอร์ด อิมเมอร์สีฟ เวอร์ชัวร์ เอ็นไวรอนเมนต์ (Ford immersive Virtual Environment – FiVE) ซึ่งเป็นสตูดิโอออกแบบในเมลเบิร์นที่เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการตรวจสอบรถแบบเสมือนจริงด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัยสำหรับทีมดีไซเนอร์และวิศวกร ศูนย์ดังกล่าวมีพื้นที่กว้างขวาง เหมาะให้ทีมงานเดินศึกษารายละเอียดรอบรถขนาดใหญ่อย่างเอสยูวีได้

ด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย ทีมงานในออสเตรเลียจึงสามารถตรวจสอบรถแบบเสมือนจริงได้พร้อมกับทีมงานในอเมริกา จีน และเยอรมนี เพื่อศึกษาและทำความเข้าใจว่าการออกแบบจะออกเป็นมาอย่างไร โดยจำลองรูปแบบการใช้งานรถในขณะหยุดนิ่งแบบเดียวกับที่ผู้บริโภคจะใช้งานจริง ไม่ว่าจะเป็นการเปิดประตู ขึ้น-ลงจากรถ และขณะนั่งภายในรถ  ทีมวิศวกรและนักออกแบบสามารถระบุและตรวจสอบปัญหาความไม่สม่ำเสมอด้านการออกแบบ เพื่อปรับการออกแบบให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมากขึ้น

พร้อมขับเคลื่อนในโลกแห่งความจริง

ถึงแม้การจำลองทางคอมพิวเตอร์จะทันสมัยเพียงใด แต่ก็ไม่สามารถทดแทนการทดลองในชีวิตจริงได้ ในขณะที่รายละเอียดด้านการออกแบบต่างๆ ยังอยู่ในขั้นตอนการสรุป ทีมวิศวกรจึงสร้างรถต้นแบบ “ลูกผสม” ก่อนการผลิตขึ้นจากแพลตฟอร์มรถเอสยูวีที่มีความชาญฉลาด แข็งแกร่ง และเปี่ยมประสิทธิภาพ เพื่อเป็นแนวทางให้กับรถที่จะได้รับการผลิตในขั้นตอนสุดท้าย

ส่วนของรถลูกผสมคันนี้ผลิตขึ้นจากชิ้นส่วนของรถหลายๆ คันที่ผลิตขึ้นมาก่อนหน้า แม้ว่ารถคันนี้อาจมีรูปร่างแปลกแต่ก็มีความสำคัญมาก เนื่องจากวิศวกรจะนำระบบของรถไปทดสอบในสถานการณ์และสิ่งแวดล้อมการขับขี่จริงอันหลากหลาย หลังจากนั้นจึงจะระบุและแก้ไขปัญหาที่อาจจะไม่แสดงให้เห็นในช่วงของการทดลองแบบเสมือนจริง

สำหรับรถเอสยูวีระดับโลกรุ่นล่าสุดที่ได้รับการออกแบบให้มีสมรรถนะอันทรงพลังในขณะขับแบบออฟโรดและให้ความรู้สึกหรูหราขณะขับบนเส้นทางปกติ การทดสอบรถในขั้นตอนนี้จึงรวมถึงบททดสอบสุดโหดมากมาย

ทีมวิศวกรได้ทดสอบรถในระดับความสูงที่สูงชันบนยอดเขาในประเทศนิวซีแลนด์ ขับข้ามเดธแวลลีย์ในแคลิฟอร์เนีย และทะเลทรายซิมป์สันในประเทศออสเตรเลีย ลุยทะเลสาบน้ำแข็งในประเทศสวีเดน บุกภูเขาอันห่างไกลในประเทศจีน และตะลุยหน้าหนาวสุดขีดในตอนเหนือของประเทศแคนาดา นอกจากนี้ ทีมวิศวกรยังได้ทดสอบความคงทนในห้องทดลองที่สามาถจำลองการใช้งานหลายปีให้แสดงผลภายในเวลาไม่กี่วัน

ในทุกขั้นตอนการทำงาน ทีมออกแบบและวิศวกรมุ่งมั่นในการปรับปรุงและพัฒนาผลงานให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้จริง การสร้างรถต้นแบบด้วยมือที่มีความคล้ายคลึงกับรถที่พร้อมส่งผลิต ทั้งในด้านการออกแบบและโครงสร้าง ทำให้ทีมงานสามารถปรับแต่งเครื่องยนต์และช่วงล่างได้เป็นอย่างดี

ตลอดระยะเวลาการทดสอบรถในสถานการณ์จริงและในช่วงของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ฟอร์ดได้ผลิตรถต้นแบบถึง 200 คัน เพื่อบุกตะลุยในทุกสนามทดสอบรวมระยะทางทั้งสิ้นกว่า 1 ล้านกิโลเมตร ทั้งในสถานที่จริงและในสนามทดสอบระดับโลกของฟอร์ด

“การได้ใช้เวลาทดลองขับรถในส่วนต่างๆ ของโลกช่วยให้เราเข้าใจสภาพถนนและพฤติกรรมการขับที่แตกต่างกันในแต่ละประเทศมากขึ้น” นายเอียน ฟอสตัน กล่าว “ตัวอย่างเช่น เราพบว่าระหว่างขับรถ ผู้ขับขี่ชาวจีนจะเหยียบคลัตช์และเปลี่ยนเกียร์เร็วกว่าผู้ขับขี่ชาวออสเตรเลีย และในตลาดอื่น เราเห็นความสำคัญของการติดตั้งแตรที่มีความคงทนมากขึ้น”

ในช่วงเกือบสุดท้ายของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การได้ทดสอบรถอย่างรอบด้านบนถนนจริงๆ ทำให้ทีมงานของฟอร์ดได้เห็นพัฒนาการของรถตั้งแต่เริ่มต้นจนครบรอบวงจรผลิตภัณฑ์ ก่อนที่รถรุ่นใหม่จะเดินหน้าสู่สายการผลิตจริงและส่งมอบให้แก่ลูกค้า

“เราเริ่มจากความต้องการของลูกค้า และให้ความสำคัญสูงสุดแก่ลูกค้าของเราเสมอ” นายเอียน ฟอสตัน กล่าว “หลังจากการทำงานนานถึง 5 ปี  และความทุ่มเทกว่า 4,500 ชั่วโมง ในที่สุด เราก็ได้สร้างสรรค์รถยนต์นั่งแบบอเนกประสงค์ที่ตอบโจทย์ความต้องการและอยู่เหนือความคาดหวังของลูกค้าได้ นับเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นมาก”



FORD เผยภาพและวิดีโอชุดแรก ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่

$
0
0

FORD เผยภาพและวิดีโอชุดแรก  ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่

  • ฟอร์ดเตรียมเผยโฉมผลิตภัณฑ์ระดับโลกรุ่นใหม่ล่าสุด ณ กรุงปักกิ่ง ในวันที่ 13 พฤศจิกายน นี้
  • คลิปวิดีโอและภาพถ่ายชุดแรก สะท้อนจุดเด่นด้านสมรรถนะและเทคโนโลยีอัจฉริยะระดับพรีเมียมของฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่

ปักกิ่ง ประเทศจีน, 4 พฤศจิกายน 2557 – ฟอร์ดเผยโฉมภาพและคลิปวิดีโอตัวอย่าง เพื่อโชว์โฉมนวัตกรรมยานยนต์ระดับโลกรุ่นล่าสุด ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่  

ทั้งนี้ ฟอร์ดจะเปิดตัวรถฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ อย่างเป็นทางการภายในงานแถลงข่าวที่จัดขึ้นเป็นพิเศษ ณ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ในวันพฤหัสบดีที่ 13 พฤศจิกายน 2557

Ford Everest 2015 นำเสนอความแข็งแกร่ง ความหรูหรา และสมรรถนะอันดีเยี่ยม พร้อมมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าความคาดหมายในทุกการเดินทาง ต่อยอดชื่อเสียงที่มีมาอย่างยาวนานของแบรนด์ฟอร์ด ทั้งด้านการเป็นผู้ริเริ่มนวัตกรรมและเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์นั่งแบบอเนกประสงค์

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ 2015 สร้างสรรค์ขึ้นด้วยฝีมือของทีมงานด้านการออกแบบและพัฒนารถฟอร์ดในระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกซึ่งทำงานประจำอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย โดยทีมงานกลุ่มนี้ได้รับความร่วมมือจากทีมฟอร์ดในประเทศต่างๆ ทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และทั่วโลก

“เรารู้สึกตื่นเต้นป็นอย่างยิ่งที่จะได้เผยโฉมนวัตกรรมยานยนต์ระดับโลกรุ่นล่าสุดที่สะท้อนให้เห็นถึงการทำงานภายใต้แผนกลยุทธ์แบบ One Ford ของเรา” มร. เทรเวอร์ เวอร์ธิงตัน รองประธานฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ ฟอร์ด ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าว “การออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างยาวนานถึง 5 ปี และความทุ่มเทของทีมงานอีกจำนวนมาก เทียบได้กับการทำงานของมนุษย์คนหนึ่งที่กินเวลายาวนานถึง 4,500 ปี ทำให้เรามั่นใจว่า ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ จะสร้างนิยามใหม่ให้กับตลาดรถเอสยูวีได้อย่างแน่นอน”

ชม TEASER FORD EVEREST ใหม่

Ford เปิดตัวราคาขายของรถ “Edge (Everest)”แล้วเริ่มต้นที่ $ 28,995

$
0
0

Ford เปิดตัวราคาขายของรถ “Edge (Everest)” แล้วเริ่มต้นที่ $ 28,995

Ford ค่ายรถยักษ์ใหญ่สัญชาติอเมริกากันล่าสุดได้เปิดตัวราคาขายของรถแบบ new-gen 2015 Edge (หรือเรียกอีกโฉมว่า Ford Everest) ออกมาเรียบร้อยแล้วในราคาเริ่มต้นที่ 28,995 ดอลล่าร์สหรัฐ

โดยรายงานครั้งนี้มีขึ้นโดยทาง  Automobile สื่อชื่อดัง ซึ่งจะประกอบไปด้วยโฉมแบบต่างๆ ได้แก่ โฉมรถแบบ SEL ในราคาเริ่มต้นที่ 32,395 ดอลล่าร์, Titanium ที่ราคาทั้งสิ้น 36,495 ดอลล่าร์และแบบ Sport ที่ราคา 38,995 ดอลล่าร์ โดยทั้งหมดมีค่าธรรมเนียมอีก 895 ดอลล่าร์

ทั้งในโฉมแบบ  SE, SEL และ Titanium models นั้นจะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตรแบบ turbocharged ที่ให้กำลัง 245 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 270 lb.-ft และเครื่องยนต์ขนาด 3.5 ลิตรแบบ V6 ที่เพิ่มราคาอีก 425 ดอลล่าร์ และโฉมแบบ  Sport ที่ใช้เครื่องยนต์ขนาด 2.7 ลิตรแบบ EcoBoost V6  ที่ให้กำลังมากกว่า 300 แรงม้า

ปิดท้ายด้วยระบบขับเคลื่อนแบบ All-wheel drive ที่เพิ่มได้ด้วยการจ่ายเงินอีก 1,995 ดอลล่าร์ 1,395  ดอลล่าร์สำหรับแพ็คเกจ  Technology Package ที่ใช้เครื่องยนต์ขนาด 3.5 ลิตรแบบ  EcoBoost  V6 และชุดแต่ง  Titanium ในราคา 1,800  ดอลล่าร์พร้อมกับแพ็คเกจความปลอดภัยแบบเต็มขั้น

FORD ปฏิวัติยานยนต์อเนกประสงค์ พร้อมเผยโฉมฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่

$
0
0

FORD ปฏิวัติยานยนต์อเนกประสงค์ พร้อมเผยโฉมฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่
ครบครันด้วยฟังก์ชันอัจฉริยะ สมรรถนะพร้อมลุย และดีไซน์สุดประณีต

  • ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ผสมผสานความสมบุกสมบันแบบออฟโรด เข้ากับประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับ จึงเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ที่มอบคุณภาพการขับขี่เหนือชั้น พร้อมความคล่องตัวที่เกินความคาดหมายของผู้บริโภค
  • รถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่งรุ่นล่าสุด มาพร้อมกับตัวถังดีไซน์ดุดัน ประณีต โครงสร้างแบบบอดี้ออนเฟรม ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ และระบบการเลือกปรับอัตราทด (Terrain Management System) ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถฝ่าฟันอุปสรรคในทุกสถานการณ์ได้อย่างมั่นใจ
  • ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ นำเสนอระบช่วงล่างล้ำสมัยเพื่อช่วยให้การขับขี่ราบรื่น นุ่มสบาย โดยไม่ทิ้งความคล่องตัวในการขับขี่ ส่วนห้องโดยสาร 7 ที่นั่ง กว้างขวาง ตกแต่งสไตล์โมเดิร์น หรูหราและประณีตในทุกรายละเอียด
  • เทคโนโลยีระดับพรีเมียมมากมายทำให้ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ เป็นหนึ่งในรถยนต์อเนกประสงค์ที่ล้ำสมัยที่สุดในตลาด ไม่ว่าจะเป็นระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (adaptive cruise control)  ระบบเชื่อมต่อการสื่อสารซิงค์ 2  (SYNC2) หรือคุณสมบัติใหม่ที่มีให้ใช้งานในรถอเนกประสงค์ระดับนี้เป็นครั้งแรก เช่น ระบบควบคุมการเข้าโค้ง (Curve Control) ระบบรักษาเลน (Lane Keeping Aid) และระบบตรวจจับรถในจุดบอดพร้อมระบบแจ้งเตือนเมื่อถอยหลังจากที่จอด (Blind Spot Information System with Cross Traffic Alert)
  • ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ นำเสนอพร้อมตัวเลือกเครื่องยนต์สมรรถนะสูงและประหยัดน้ำมัน* 3 รุ่น ทั้งเครื่องยนต์เบนซิน อีโคบู๊สต์ 2.0 ลิตร รุ่นล่าสุด และเครื่องยนต์ดีเซล ดูราทอร์ค TDCi ใหม่ อีกสองรุ่น โดยทำงานคู่กับระบบส่งกำลัง 6 สปีดแบบอัตโนมัติหรือธรรมดา เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการขับขี่

ปักกิ่ง, ประเทศจีน, 14 พฤศจิกายน 2557 – ฟอร์ดเดินหน้าปฏิวัติตลาดรถยนต์อเนกประสงค์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ด้วยการเปิดตัว ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ รถยนต์อเนกประสงค์ 7 ที่นั่งที่เปี่ยมด้วยเทคโนโลยีล้ำยุค ดีไซน์สุดประณีต และสมรรถนะที่โดดเด่น พร้อมสำหรับทุกสถานการณ์การขับขี่ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ จะวางจำหน่ายใน 8 ประเทศทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในปีพ.ศ. 2558 โดยรวมถึงประเทศจีน ออสเตรเลีย อินเดีย และตลาดอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียน

“ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ชั้นยอดที่พร้อมสำหรับทั้งการเดินทางในชีวิตประจำวัน และการฝ่าฟันทุกอุปสรรคขณะขับขี่แบบออฟโรด” มร. เดฟ ชอล์ก ประธาน ฟอร์ด ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าว “ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ผสมผสานความสมบุกสมบันเข้ากับการมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบาย ซึ่งจะทำให้ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ สามารถชนะใจผู้ขับขี่รถยนต์ทั้งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและทุกตลาดทั่วโลกได้อย่างแน่นอน”

ภายใต้รูปลักษณ์ดุดันที่สะท้อนถึงความสมบุกสมบันและเทคโนโลยีล้ำสมัย ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ที่ครบครันทั้งความแข็งแกร่ง คุณสมบัติอัจฉริยะมากมาย ดีไซน์สวยสะดุดตา และสมรรถนะเพื่อการขับขี่แบบออฟโรดเต็มรูปแบบ โดยที่ยังรักษาความเป็นรถยนต์ที่ขับสนุกในสไตล์ฟอร์ดไว้ได้อย่างครบถ้วนด้วยความคล่องตัวบนท้องถนน พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ทั้งหรูหราและสะดวกสบาย

“ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ จะเปิดโอกาสให้เราได้ขยายตลาดในภูมิภาคนี้ได้กว้างขึ้น ด้วยรถยนต์อเนกประสงค์ที่สามารถพาผู้ขับขี่ เพื่อนๆ สมาชิกในครอบครัว หรือเพื่อนร่วมงานไปยังทุกจุดหมายได้อย่างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมืองหรือบนเส้นทางแบบออฟโรดอันสมบุกสมบัน” มร. เทรเวอร์ เวอร์ธิงตัน รองประธานฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ ฟอร์ด ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าว “ด้วยสมรรถนะอันเป็นเลิศทั้งหมดนี้ ทำให้กลุ่มผลิตภัณฑ์รถยนต์อเนกประสงค์ของเราในภูมิภาคนี้ ทั้งฟอร์ด เอคโค่สปอร์ต และฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ สามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้ขับขี่ได้อย่างครบถ้วน”

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ เป็นผลงานการสร้างสรรค์ขึ้นโดยทีมออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมทั้งยังนำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในตลาดรถอเนกประสงค์ทั่วโลกของฟอร์ดมาใช้ ทำให้ เอเวอเรสต์ ใหม่ สามารถสานต่อความโดดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์ของฟอร์ด เอเวอเรสต์ รุ่นปัจจุบันได้เป็นอย่างดี ทั้งในด้านความทนทานและความอเนกประสงค์ ทั้งนี้ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ จะมีให้เลือกทั้งในรุ่นขับเคลื่อนล้อหลังและขับเคลื่อนสี่ล้อ ซึ่งการวางจำหน่ายในแต่ละประเทศจะขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละตลาด

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นทุ่มเทของฟอร์ดในการพัฒนารถยนต์คุณภาพเยี่ยมที่เหนือความคาดหวังของลูกค้า” มร. เวอร์ธิงตัน  กล่าวเสริม “กระบวนการพัฒนาฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ เริ่มต้นด้วยการตั้งเป้าหมายให้สูงไว้ก่อน และในที่สุด เราก็ประสบความสำเร็จในการสร้างสรรค์รถยนต์อเนกประสงค์ที่สร้างมาตรฐานใหม่ทั้งในด้านการออกแบบและสมรรถนะ พร้อมมอบเทคโนโลยีล้ำยุคมากมายทำให้เอเวอเรสต์ ใหม่ เหนือชั้นกว่า ปลอดภัยกว่า และมีสมรรถนะเหนือกว่าที่เคย ในราคาที่เย้ายวนใจ”

ดุลยภาพแห่งสมรรถนะ ความพร้อมลุยอแบบอฟโรด และนุ่มสบายบนท้องถนน

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ได้รับการออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมด เพื่อให้มีความทนทานในระดับแถวหน้าของตลาด พร้อมฝ่าฟันทุกเส้นทาง ด้วยโครงสร้างแบบบอดี้ออนเฟรม เอเวอเรสต์ ใหม่ จึงมีตัวถังที่แข็งแกร่ง เหมาะสมกับการขับขี่แบบสมบุกสมบัน นอกจากนี้ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ ระบบเกียร์แบ่งกำลังพร้อมระบบควบคุมการจ่ายแรงบิด (Torque on Demand) ระบบการเลือกปรับอัตราทด (Terrain Management System) ความสูงจากพื้นรถที่สูงสุดในตลาด ถึง 225 มิลลิเมตร พร้อมลุยน้ำได้ที่ความลึกสูงสุด 800 มิลลิเมตร ยังทำให้ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ สามารถเอาชนะทุกอุปสรรคได้อย่างง่ายดาย

เพื่อให้ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ รับมือกับทุกสภาพพื้นผิวการขับขี่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ระบบการเลือกปรับอัตราทด จึงมาพร้อมกับโหมดการตั้งค่าสี่แบบ สำหรับพื้นผิวทั่วไป หิมะ/กรวด/หญ้า ทราย และพื้นหินขรุขระ โดยที่แต่ละโหมดจะปรับเปลี่ยนการตั้งค่าอัตราเร่ง ระบบส่งกำลัง ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ และระบบควบคุมการเกาะถนน (traction control) เพื่อให้คุณขับขี่ได้อย่างมั่นใจในทุกสถานการณ์ ส่วนในกรณีที่ต้องเผชิญกับเส้นทางออฟโรดสุดหฤโหด ผู้ขับขี่ก็สามารถสั่งล็อกระบบเกียร์แบ่งกำลังให้ทำงานแบบขับเคลื่อนสี่ล้อด้วยอัตราทดต่ำ เพื่อให้ควบคุมรถได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น

นอกเหนือไปจากสมรรถนะการขับขี่แบบออฟโรดแล้ว รถยนต์อเนกประสงค์รุ่นนี้ยังมอบประสบการณ์การขับขี่ที่นุ่มนวลและมอบความคล่องตัวในระดับที่เหนือความคาดหมาย ด้วยช่วงล่างแบบคอยล์สปริงหน้า-หลัง พร้อมติดตั้งกลไก Watt’s Linkage ที่เพลาหลัง ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ จึงมอบความสะดวกสบาย รวมถึงการเกาะถนนอย่างดีเยี่ยม มอบความรู้สึกสนุกในการขับขี่ซึ่งเป็นดีเอ็นเอของฟอร์ดไว้ได้อย่างเต็มรูปแบบ

เทคโนโลยีล้ำยุค สะดวกสบายและปลอดภัยอย่างเหนือชั้น

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ มาพร้อมกับคุณสมบัติอัจฉริยะมากมายที่พร้อมสร้างประสบการณ์การขับขี่อันสุดพิเศษ จนถือเป็นหนึ่งในรถยนต์อเนกประสงค์แบบออฟโรดที่มีเทคโนโลยีล้ำยุคที่สุดเท่าที่เคยมีมา นับเป็นการต่อยอดจากความเชี่ยวชาญในระดับโลกของฟอร์ดด้านการสร้างสรรค์รถยนต์อเนกประสงค์ที่ดีเยี่ยม

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ติดตั้งซิงค์ 2 (SYNC 2) ซึ่งเป็นระบบเชื่อมต่อการสื่อสารภายในรถรุ่นล่าสุดจากฟอร์ด ผู้ขับขี่จึงสามารถใช้เสียงสั่งการอุปกรณ์เพื่อความบันเทิง ระบบเครื่องปรับอากาศ และอุปกรณ์พกพาต่างๆ ที่เชื่อมต่อกับตัวรถได้อย่างเป็นธรรมชาติและสะดวกสบายยิ่งกว่าเดิม นอกจากนี้ ซิงค์ 2 ยังมีจอทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว ที่ใช้งานง่ายด้วยเมนูควบคุมที่แบ่งจอออกเป็น 4 มุม และใช้สีที่แตกต่างกันบ่งบอกถึงฟังก์ชันการใช้งานหลักๆ อย่างชัดเจน

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ มาพร้อมกับเทคโนโลยีอีกมากมายที่ไม่เคยปรากฏในรถอเนกประสงค์รุ่นใดมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นระบบควบคุมการเข้าโค้ง (Curve Control) ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่ยังสามารถควบคุมรถได้ในกรณีที่เข้าโค้งด้วยความเร็วสูงเกินไป ระบบแจ้งเตือนเมื่อเปลี่ยนเลน (Lane Departure Warning) และระบบรักษาเลน (Lane Keeping Aid) ที่ป้องกันไม่ให้เกิดการเปลี่ยนเลนโดยไม่ตั้งใจ รวมทั้งระบบตรวจจับรถในจุดบอด (Blind Spot Information System หรือ BLIS) พร้อมระบบแจ้งเตือนเมื่อถอยหลังจากที่จอด (Cross Traffic Alert) ซึ่งจะคอยแจ้งเตือนผู้ขับขี่ในกรณีที่มีรถคันอื่นอยู่ในมุมบอด หรือในขณะถอยออกจากที่จอด

เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยอื่นๆ ที่มีอยู่ในฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ได้แก่ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Adaptive Cruise Control) ระบบเตือนและป้องกันการชนด้านหน้า (Forward Alert with Collision Mitigation) ระบบป้องกันรถพลิกคว่ำ (Roll Stability Control) และระบบควบคุมการทรงตัว (Electronic Stability Program) ที่ทำงานสอดประสานกับระบบควบคุมการเกาะถนนเพื่อความมั่นใจสูงสุดขณะขับขี่ ส่วนระบบช่วยจอดอัตโนมัติ (Active Park Assist) จะช่วยให้การนำรถเข้าช่องจอดเป็นเรื่องง่าย โดยที่ผู้ขับขี่จะควบคุมเพียงแค่การเหยียบคันเร่ง เข้าเกียร์ และเบรก โดยไม่จำเป็นต้องจับพวงมาลัย

นอกเหนือจากเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยเหล่านี้ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ยังปกป้องผู้ขับขี่และผู้โดยสารทุกคนด้วยโครงสร้างห้องโดยสารที่แข็งแกร่งด้วยวัสดุสุดทนทานอย่างเหล็กโบรอน และคุณสมบัติอื่นๆ อีกมากมาย เช่นถุงลมนิรภัย 7 จุด เป็นต้น

ไปได้ไกลกว่า กับขุมพลังที่เปี่ยมประสิทธิภาพและประหยัดน้ำมัน

สมรรถนะอันเหนือชั้นของ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ มาจากขุมพลังเบนซินและดีเซลที่มีให้เลือก 3 รุ่น (จำนวนรุ่นเครื่องยนต์ที่วางจำหน่ายจริงอาจแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ) และระบบเกียร์ 6 สปีด ทั้งแบบเกียร์อัตโนมัติและเกียร์ธรรมดา โดยเครื่องยนต์ทั้ง 3 รุ่น ล้วนมอบกำลังขับเคลื่อนและแรงบิดแบบเต็มพิกัด ทั้งยังประหยัดน้ำมันเป็นเลิศอีกด้วย

  • เครื่องยนต์เบนซิน อีโคบู๊สต์ 2.0 ลิตร 4 สูบ รุ่นใหม่ พร้อมเทอร์โบแบบ Twin Scroll จะเปิดตัวออกสู่ตลาดเอเชียแปซิฟิก เป็นครั้งแรกในฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ พร้อมมอบส่วนผสมที่ลงตัวทั้งด้านพละกำลังในการขับขี่และแรงบิดที่เหนือชั้น ทั้งยังมีอัตราการประหยัดน้ำมันและระดับการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในตลาด
  • สำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการเครื่องยนต์ที่มีพละกำลังและแรงบิดสูงสุดเพื่อใช้ในการลากจูง ฟอร์ดก็พร้อมนำเสนอเครื่องยนต์ดีเซล ดูราทอร์ค TDCi 3.2 ลิตรแบบ 5 สูบรุ่นล่าสุด ที่มอบประสิทธิภาพเหนือระดับด้วยคุณสมบัติใหม่มากมาย รวมถึงระบบหมุนเวียนไอเสียแบบใหม่เพื่อประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยมยิ่งขึ้น
  • นอกจากนี้ ฟอร์ดยังมอบอีกหนึ่งทางเลือกเครื่องยนต์ดีเซล ดูราทอร์ค TDCi 2.2 ลิตร แบบ 4 สูบ ที่พร้อมมอบสมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยม และยังประหยัดน้ำมันเป็นเลิศอีกด้วย

“เครื่องยนต์ทั้ง 3 รุ่นนี้ แสดงถึงความมุ่งมั่นของฟอร์ดที่จะนำเสนอทางเลือกที่หลากหลายให้กับลูกค้าในแต่ละประเทศ ซึ่งล้วนมีความต้องการแตกต่างกันไป” มร. เวอร์ธิงตัน กล่าว “เราได้คัดสรรเทคโนโลยีเครื่องยนต์ที่โดดเด่นที่สุดของฟอร์ด ทั้งในด้านประสิทธิภาพและความประหยัด เพื่อให้เอเวอเรสต์ ใหม่ ตอบสนองต่อความต้องการของผู้ขับขี่รถยนต์อเนกประสงค์ได้อย่างยอดเยี่ยม”

ความชาญฉลาดในการออกแบบเพื่อตอบสนองต่อการใช้งาน

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ โดดเด่นด้วยการออกแบบที่เน้นถึงความโดดเด่นและดุดัน สื่อถึงสมรรถนะในการขับขี่ที่เหนือชั้นและเทคโนโลยีล้ำสมัยที่อยู่ภายใน ทั้งยังสง่างามน่าเกรงขามด้วยส่วนหน้ารถที่กว้าง พร้อมติดตั้งไฟแอลอีดีแบบส่องสว่างระหว่างวันอันเป็นเอกลักษณ์ ควบคู่กับตัวถังที่ผ่านการทดสอบทางอากาศพลศาสตร์โดยละเอียดทุกขั้นตอน จนเกิดเป็นผลงานการออกแบบที่ผสมผสานความสวยงามและประสิทธิภาพเข้าด้วยกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ห้องโดยสารของฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ มอบความหรูหราโดดเด่น ด้วยวัสดุคุณภาพสูง และเส้นสายรอบคันที่สอดประสานกันอย่างกลมกลืนและลงตัวภายในห้องโดยสาร 7 ที่นั่งที่ทั้งสวยงาม นั่งสบาย และใช้งานสะดวกด้วยคุณสมบัติมากมาย ทั้งหลังคากระจกขนาดใหญ่ ฝาท้ายรถระบบไฟฟ้า ช่องเก็บของกว่า 30 ช่อง ช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้าสำหรับทั้งเบาะหน้าและเบาะหลัง และที่นั่งและพื้นที่เก็บของที่ปรับเปลี่ยนให้เข้ากับทุกการใช้งานได้ โดยเบาะนั่งแถวสองและสามสามารถพับเก็บให้แบนราบได้ทั้งสองแถว

เพื่อให้ห้องโดยสารปราศจากเสียงรบกวน ฟอร์ดจึงได้ติดตั้งเทคโนโลยีการตัดเสียงรบกวน (Active Noise Cancellation) ไว้ภายใน เอเวอเรสต์ ใหม่ ทั้งยังพัฒนาซีลกันเสียงและวัสดุดูดซับเสียงภายในห้องโดยสารให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นอีกด้วย

เทคโนโลยีการตัดเสียงรบกวน (Active Noise Cancellation) มีหลักการทำงานที่คล้ายคลึงกับการต้านเสียงรบกวนของหูฟังระดับพรีเมียม โดยภายในห้องโดยสารของฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ มีไมโครโฟนจำนวน 3 ตัวที่ทำหน้าที่ตรวจจับและวัดระดับเสียง ก่อนที่ระบบควบคุมและเครื่องเสียงในตัวรถจะทำการสังเคราะห์คลื่นเสียงที่ตรงข้ามกันเพื่อหักล้างกับเสียงรบกวน จึงทำให้ห้องโดยสารเงียบสนิท ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถพูดคุยกับผู้โดยสารในแถวหลังได้โดยไม่ต้องใช้เสียงดัง

“ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ครบครันด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัยและระบบปกป้องความปลอดภัยที่ดีเยี่ยม ห้องโดยสารที่ประณีตในทุกรายละเอียด และสุดยอดสมรรถนะสำหรับทุกการขับขี่ จึงถือเป็นมาตรฐานใหม่ของตลาดรถอเนกประสงค์ขนาดกลาง  และสะท้อนถึงความเชี่ยวชาญในการสร้างสรรค์รถยนต์อเนกประสงค์ของฟอร์ดสำหรับตลาดเอเชียแปซิฟิกได้เป็นอย่างดี” มร. เวอร์ธิงตัน กล่าว้ “เราได้นำเอาความเชี่ยวชาญในการออกแบบและพัฒนารถยนต์ทั่วโลก และประสบการณ์อันยาวนานในตลาดรถยนต์อเนกประสงค์ มาผสมผสานกันเพื่อสร้างสรรค์รถยนต์คุณภาพที่เหนือกว่าความคาดหมายของลูกค้าอย่างแท้จริง”้

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ จะผลิตที่โรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย ในจังหวัดระยอง สำหรับตลาดอาเซียน ส่วนในประเทศจีนจะผลิตโดยบริษัทฟอร์ด เจียงหลิง มอเตอร์ คอร์ป (เจเอ็มซี)  ที่โรงงาน เจเอ็มซี เสี่ยวหลาน ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองหนางฉาง  และจัดจำหน่ายผ่านทางเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายรถฟอร์ดในเครือเจเอ็มซี

ใหม่ All New Ford Everest 2015-2016 ราคา ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ตารางราคา-ผ่อน-ดาวน์

$
0
0

ใหม่ All New Ford Everest 2015-2016 ราคา ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ตารางราคา-ผ่อน-ดาวน์

All New  Ford Everest  2015 สร้างมา…เพื่อเป็นที่หนึ่ง
ไม่ว่าพื้นผิวถนนจะเป็นเช่นไร ฟอร์ด เอเวอร์เรสต์ ใหม่ ช่วยให้ทุกเส้นทางอยู่ในการควบคุมของคุณอย่างเต็มรูปแบบ ด้วย i4WDTerrain Management System ที่ให้คุณ เปลี่ยนระบบขับเคลื่อนได้ทุกเวลา เพื่อเพิ่มแรงยึดเกาะและเสริมการทรงตัวตามสภาพพื้นผิวถนน ไม่ว่าจะเป็นพื้นโคลน ทราย หิมะ หรือลูกรัง

Ford Everest 2015 ราคา
ราคา Ford Everest ฟอร์ด เอเวอเรสต์  2.2L 4X2 Titanium  1,269,000.
ราคา Ford Everest ฟอร์ด เอเวอเรสต์  3.2L 4X4 Titanium  1,459,000.
ราคา Ford Everest ฟอร์ด เอเวอเรสต์  3.2L 4X4 Titanium+  1,599,000.

*ของแถม Ford Everest จัดเต็ม ติดต่อ เซลล์ คุณข้าวตู 086-7548473 *พระราม 2

ผู้สนใจสามารถจอง ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ได้แล้ววันนี้ที่โชว์รูมฟอร์ดทุกสาขาทั่วประเทศ
โดยการส่งมอบรถจะเริ่มขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้

ราคา ฟอร์ด เอเวอเรสต์  2015 ตารางราคา-ผ่อน-ดาวน์

ชมรีวิว All New Ford Everest

อุปกรณ์มาตรฐาน NEW Ford Everest

ความยาว x ความกว้าง x ความสูง : 4,893 x 1,862 x 1,837

Ford Everest รุ่น 2.2L Titanium 4×2 AT ราคา 1,269,000.

อุปกรณ์มาตรฐานภายนอก
– กันชนหน้า/หลังสีเดียวกับตัวรถ
– มือจับประตูภายนอก/กระจกมองข้าง สีเดียวกับตัวรถ
– กระจังหน้าโครเมียม
– ไฟหน้าแบบโปรเจ็คเตอร์
– ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
– ไฟตัดหมอกหน้า
– ไฟตัดหมอกหลัง
– ระบบไล่ฝ้ากระจกหลัง
– ราวหลังคา
– บันไดข้าง
– สปอยเลอร์หลัง พร้อมไฟเบรกดวงที่สาม
– ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ
– ระบบปัดน้ำฝนด้านหลังพร้อมที่ฉีดทำความสะอาด
– กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยว

อุปกรณ์มาตรฐานภายในและความสะดวกสบาย
– กระจกไฟฟ้า หน้า-หลัง พร้อมระบบเปิด-ปิดสัมผัสเดียวด้านคนขับ
– กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ
– พวงมาลัยและหัวเกียร์หุ้มหนัง
– ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา
– ระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลังแบบแยกส่วนจากห้องโดยสารตอนหน้าพร้อมสวิตช์ควบคุม
– กุญแจรีโมทแบบพับได้
– เบาะนั่งหุ้มหนัง
– เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
– เบาะแถวที่ 2 พับเรียบได้แบบแยกส่วน60:40
– เบาะแถวที่ 2 ปรับเอนและสามารถเลื่อนต่ำแหน่งหน้า-หลังได้
– เบาะแถวที่ 3 พับเรียบได้แบบแยกส่วน50:50
– ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ
– แผงบังแดดด้านคนขับพร้อมที่เสียบนามบัตร
– แผงบังแดดด้านผู้โดยสารพร้อมกระจก
– ไฟอ่านแผนที่และไฟส่องสว่างภายในรถ
– ช่องเก็บแว่นตา
– ช่องต่อไฟ 12V จำนวน 3 จุด

ความปลอดภัย
– ระบบป้องกันล้อล็อคและกระจายแรงเบรก ABS & EBD
– ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ESP พร้อมระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน HLA
– ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล
– ระบบป้องกันรถพลิกคว่ำ
– ถุงลมนิรภัยด้านคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า
– ถุงลมนิรภัยด้านข้าง และม่านถุงลมนิรภัย
– สัญญาณเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยคนขับและผู้โดยสารตอนหน้า
– สัญญาณเตือนระยะจอดด้านหลัง
– สัญญาณกันขโมย
– ระบบกุญแจนิรภัย
– จุดยึดสำหรับเบาะนั่งเด็ก

ระบบเครื่องเสียง
วิทยุพร้อมเครื่องเล่น 1 CD/MP3
หน้าจอสีแบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว
ลำโพง 9 ตัว พร้อมซับวูฟเฟอร์และแอมพลิฟลายเออร์
ช่องต่อ AUX
ช่องต่อ USB จำนวน2 จุด
ช่องต่อ SD Card
ระบบสั่งด้วยเสียง SYNC® พร้อมการเชื่อมต่อ Bluetooth
สวิตช์ควบคุมระบบเครื่องเสียงบนพวงมาลัย

Ford Everest รุ่น 3.2L Titanium 4×4 AT 1,459,000.
– อุปกรณ์มาตรฐานเหมือนกันกับรุ่น 2.2L Titanium 4×2 AT

Ford Everest รุ่น 3.2L Titanium+ 4×4 AT 1,599,000.
– มือจับประตูภายนอก/กระจกมองข้าง โครเมียม
– ไฟหน้าแบบโปรเจ็คเตอร์ HID ปรับระดับสูง-ต่ำอัตโนมัติพร้อมที่ฉีดทำความสะอาด
– ไฟวิ่งกลางแบบ LED
– ระบบไล่ฝ้ากระจกมองข้าง
– ไฟส่องสว่างข้างตัวรถ
– หลังคา Panoramic Moonroof แบบปรับไฟฟ้า
– กระจกไฟฟ้า หน้า-หลัง พร้อมระบบเปิด-ปิดสัมผัสเดียวทุกบาน
– เบาะแถวที่3 พับเรียบได้แบบแยกส่วน50:50 ปรับไฟฟ้า
– ประตูท้ายเปิด-ปิด ด้วยไฟฟ้า
– ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ
– ไฟตกแต่งภายในห้องโดยสาร พร้อมโหมดเปลี่นยนสีได้7โทนสี
– ชุดชายบันไดสแตนเลสแบบLED
– แผงบังแดดด้านคนขับแบบปรับระยะได้พร้อมที่เสียบนามบัตร กระจกและไฟส่องสว่าง
– แผงบังแดดด้านผู้โดยสารแบบปรับระยะได้พร้อมกระจกและไฟส่องสว่าง
– ถุงลมนิรภัยกันหัวเข่าด้านคนขับ
– สัญญาณเตือนระยะจอดด้านหน้า
– กล้องมองหลังขณะถอยจอด
– ระบบตรวจจับรถในจุดบอด
– ระบบตรวจจับรถขณะออกจากซองจอด

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ มีสีให้เลือก 5 สี ได้แก่ 1. สีขาว คูล ไวต์ (Cool White)  2. สีดำ แบล็ก ไมก้า เมทัลลิก (Black Mica Metallic ) 3. สีเงิน อะลูมินัม เมทัลลิก (Aluminum Metallic) 4. สีทอง สปาร์คลิ่ง โกล์ด เมทัลลิก (Sparkling Gold Metallic) และ 5. สีแดง ซันเซต เมทัลลิก (Sunset  Metallic)

i4WD Terrain Management System
ฟอร์ด เอเวอร์เรสต์ ใหม่ ให้คุณขับขี่อย่างปลอดภัยบนทุกพื้นผิวถนน ด้วยระบบ i4WDTerrain Management System เพิ่มแรงดึงและเสริมการทรงตัวในขณะขับขี่ ให้คุณควบคุมการขับขี่ได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นทางที่เต็มไปด้วยทราย หิน หรือแม้กระทั่งหิมะ

Water Wading and Ground Clearance
ฟอร์ด เอเวอร์เรสต์ ใหม่ ถูกสร้างมาเพื่อพาคุณไปทุกที่ที่คุณต้องการ ด้วยความสูงจากพื้นที่มากถึง 225 มิลลิเมตร จึงทำให้ไม่มีอุปสรรคใดที่จะหยุดยั้งคุณได้ แม้กระทั่งสายน้ำที่เชี่ยวกราก ฟอร์ด เอเวอร์เรสต์ ก็สามารถพาคุณลุยน้ำได้ลึกถึง 800 มิลลิเมตร

Hill Descent Control
การขับรถลงเขาจะกลายเป็นเรื่องง่ายอย่างที่คุณไม่เคยคิดมาก่อน ด้วยระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางชัน (Hill Descent Control) จะช่วยควบคุมระบบเบรกของรถขณะพาคุณลงเขา ด้วยความมั่นคงและปลอดภัยแบบอัตโนมัติ แค่เพียงคุณบังคับพวงมาลัย ส่วนที่เหลือ ฟอร์ด เอเวอร์เรสต์ ใหม่ จะจัดการให้คุณเอง

Electronic locking rear differential
ประสบการณ์การขับรถแบบออฟโรดในสภาวะพื้นผิวที่ลื่นและทรหดที่ผ่านมาของคุณ จะเปลี่ยนไป ด้วยระบบล็อคเฟืองท้าย หรือ Electronic Locking Rear Differential (LRD) จะช่วยส่งอัตราเร่งจากเครื่องยนต์ไปสู่ล้อคู่หลังอย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งแม้ในขณะล้อข้างใดข้างหนึ่งจะหมุนฟรีอยู่ก็ตาม เพื่อรักษาอัตราการยึดเกาะพื้นถนนและการควบคุมรถให้อยู่ในระดับสูงสุด

พื้นที่ห้องโดยสารและบรรทุกของที่กว้างขวาง
ห้องโดยสารของ ฟอร์ด เอเวอร์เรสต์ ใหม่ กว้างขวางเพื่อตอบสนองความต้องการของคุณในการเดินทาง กับเบาะที่นั่งผู้โดยสารถึง 7 ที่นั่ง และพื้นที่เพื่อใช้บรรทุกสัมภาระในตัวรถได้มากถึง 750 กิโลกรัม และ 100 กิโลกรัมบนหลังคา พร้อมความสามารถในการลากจูงได้อีกมากถึง 3 ตัน สามารถลากจูงสิ่งของขนาดใหญ่ เช่น เรือหรือเจ็ตสกีได้อย่างสบาย

ตอบสนองได้ในทุกความต้องการของคุณ
ชีวิตคุณจะกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้น หากเทคโนโลยีที่คุณใช้ก้าวทันความต้องการของคุณ ระบบเซ็นเซอร์และเรดาร์ใน ฟอร์ด เอเวอร์เรสต์ ใหม่ เข้าใจและสามารถตอบสนองในความต้องการของคุณ จึงทำให้คุณเพลิดเพลินไปกับการขับขี่ได้จนถึงขีดสุด

SYNC™ ระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC™ ช่วยให้คุณโทรหาครอบครัวหรือเพื่อนสนิทเพียงการเรียกชื่อพวกเค้า คุณยังสามารถสั่งให้ระบบอ่านข้อความ SMS ที่ส่งเข้ามา หรือเล่นเพลงโปรดที่คุณชอบ โดยไม่ต้องละมือจากพวงมาลัยและละสายตาจากถนนเลย นอกจากนี้ คุณยังสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์สุดโปรดของคุณ กับจอภาพแบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว ผ่านช่อง USB ถึง 2 ช่อง, ช่อง RCA และช่องเสียบการ์ด SD ได้อีกด้วย

BLIS and Cross-traffic alert ระบบตรวจจับรถในจุดบอดและตรวจจับรถขณะออกจากซองจอด ฟอร์ด เอเวอร์เรสต์ ใหม่ จะช่วยเป็นตาคู่ที่สองของคุณ และคอยเตือนในขณะขับขี่ก่อนที่คุณจะตัดสินใจเปลี่ยนช่องทาง โดยสัญญาณไฟจะแสดงขึ้นบนกระจกมองข้าง หากพบว่าในด้านนั้นมีรถอยู่ในจุดที่คุณมองไม่เห็น นอกจากนี้ระบบจะทำการเตือนหากมีรถวิ่งตัดผ่านด้านหลัง ขณะที่คุณกำลังถอยรถออกจากช่องจอด

Active Park Assist ขนาดของ ฟอร์ด เอเวอร์เรสต์ ใหม่ ไม่ใช่ปัญหาในการเข้าจอด แค่กดปุ่มเพียงครั้งเดียว ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ (Active Park Assist) จะช่วยคุณหามุมและขนาดของช่องจอดที่เหมาะสม และขับเคลื่อนรถยนต์เพื่อเข้าจอด คุณสามารถปล่อยมือออกจากพวงมาลัย และให้ระบบจัดการทุกอย่าง โดยคุณเพียงแค่ควบคุมเกียร์ คันเร่ง และเบรกเท่านั้น

เปิดประสบการณ์การเดินทางที่เหนือระดับกับเส้นทางสุดพิเศษ รถยนต์อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ต้องมีขุมพลังที่เพียงพอต่อการพาคุณไปกับทุกการเดินทาง ฟอร์ด เอเวอร์เรสต์ ใหม่ มีขุมพลังที่เพียงพอและยังประหยัดน้ำมัน เพื่อให้ทุกการเดินทางง่ายและสะดวกสบาย

INTERIOR รูปลักษณ์ภายใน ฟอร์ด เอเวอเรสต์

2.2L TDCi diesel engine เครื่องยนต์ดีเซล TDCi เทอร์โบชาร์จ ขนาด 2.2 ลิตร ให้ทั้งพละกำลังที่แรงและมาพร้อมกับความประหยัดน้ำมัน ระบบหัวฉีด Direct Fuel Injection รับประกันว่าทุกหยดของเชื้อเพลิงจะถูกใช้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยให้กำลังสูงสุดถึง 160 แรงม้า และแรงบิดที่ 385 นิวตันเมตร

ทรงพลังด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 3.2L TDCi เครื่องยนต์ดีเซล TDCi แบบห้ากระบอกสูบ ขนาด 3.2 ลิตร ให้สมรรถนะที่ทรงพลัง และยังประหยัดพลังงาน ด้วยเทคโนโลยีที่มีในเครื่องยนต์ขนาด 2.2 ลิตร สามารถให้แรงบิดได้สูงมากถึง 470 นิวตันเมตร และให้กำลังสูงสุดถึง 200 แรงม้า

Electronic Stability Control ฟอร์ด เอเวอร์เรสต์ ใหม่ ให้การทรงตัวที่เยี่ยมยอด ด้วยระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (Electronic Stability Control) ที่ควบคุมการทรงตัวของรถยนต์ในยามเข้าโค้ง เร่งแซง หรือแม้กระทั่งในสถานการณ์คับขัน ระบบป้องกันรถพลิกคว่ำ (Roll Stability Control) จะมี gyroscopic sensor เพื่อตรวจสอบการเข้าโค้งว่ารถมีโอกาสในการหมุน พลิกคว่ำ หรือไม่ และช่วยปรับการทรงตัวเพื่อให้รถกลับมาเกาะถนนอีกครั้ง

ทรงตัวดีเยี่ยมด้วยระบบช่วงล่างที่แตกต่าง รถยนต์อเนกประสงค์คันนี้ เกาะถนนและทรงตัวเยี่ยมอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนด้วยช่วงล่างแบบคอยล์สปริงพร้อมวัตต์ลิงค์ ที่แตกต่างจากช่วงล่างแบบเดิมๆ ให้การทรงตัวและการควบคุมที่ดียิ่งขึ้น พร้อมด้วยความนุ่มนวลในห้องโดยสาร

ออกแบบและสร้างขึ้นมาด้วยความคิดอย่างรอบคอบเพื่อคุณ คุณจะหลงรักในทุกรายละเอียดที่สร้างขึ้นด้วยความใส่ใจใน ฟอร์ด เอเวอร์เรสต์ ใหม่ ที่จะทำให้ประสบการณ์การขับขี่ของคุณ ง่ายและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

ไม่พลาดในทุกอุปสรรค ด้วยกล้องมองหลัง ถึงแม้ที่นั่งโดยสารของคุณอาจอยู่สูงจากพื้น แต่ด้วยกล้องมองหลังและเสียงเตือนเซ็นเซอร์เมื่อเข้าเกียร์ถอยหลัง จะทำให้คุณมั่นใจได้ว่าคุณจะไม่พลาดในการมองเห็นสิ่งที่ไม่คาดคิดที่ด้านหลังของรถ และช่วยให้คุณถอยหลังได้อย่างมั่นใจกว่า

Panoramic Moonroof เพื่อเปิดประสบการณ์การเดินทางที่เหนือระดับของคุณ ฟอร์ด เอเวอร์เรสต์ ใหม่ จึงมาพร้อมหลังคา Panoramic Moonroof แบบปรับไฟฟ้า ที่ครอบคลุมพื้นที่กว่าครึ่งของหลังคารถ เพียงแค่กดปุ่ม คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศภายนอกในอีกระดับของการเดินทาง

สะดวกสบายถึงขีดสุด ด้วยห้องโดยสารแบบ 7 ที่นั่ง เบาะหนังสุดหรูทั้ง 7 ที่นั่ง ทำให้คุณมีพื้นที่มากพอ สำหรับคุณและสมาชิกในครอบครัว เพื่อนฝูง หรือใครก็ตาม สำหรับการเดินทางไปยังจุดหมายด้วยพื้นที่กว้างขวาง และความสบายอย่างเต็มเปี่ยม

3rd row PowerFold seats and Power Tailgate เพียงแค่กดปุ่ม ก็จะสามารถพับเก็บเบาะที่นั่งในแถวที่ 3 ได้ด้วยระบบไฟฟ้า เพื่อเพิ่มพื้นที่บรรทุกสัมภาระให้กว้างขึ้นตามต้องการ และด้วยประตูท้ายที่สามารถเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า ทำคุณให้สะดวกยิ่งขึ้นในการขนย้ายสัมภาระขนาดใหญ่

เพื่อความปลอดภัยของคุณและคนที่คุณรักด้วยถุงลมนิภัย 7 ใบ เพราะฟอร์ดเข้าใจว่าความปลอดภัยสำหรับคุณและคนที่คุณรักคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ฟอร์ดจึงติดตั้งถุงลมนิรภัยสำหรับที่นั่งคนขับและผู้โดยสารด้านหน้า และถุงลมนิรภัยด้านข้างรอบด้านเพื่อปกป้องผู้โดยสารในแถวหลัง ยังมีถุงลมนิรภัยเพื่อปกป้องเข่าของผู้ขับขี่อีกด้วย

Ford นำ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ไปจัดแสดงที่งาน USA Fair 2015 29-31 พฤษภาคมนี้

$
0
0

Ford นำ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ไปจัดแสดงที่งาน USA Fair 2015 29-31 พฤษภาคมนี้

กรุเทพฯ ประเทศไทย, 15 พฤษภาคม 2558ฟอร์ด ประเทศไทย เตรียมร่วมงาน USA Fair 2015 งานจัดแสดงสินค้าประจำปีในกลุ่มพันธมิตรสินค้าจากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะจัดขึ้น ในวันที่ 29-31 พฤษภาคม 2558 ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยในปีนี้ ฟอร์ดจะนำรถยนต์ระดับโลกรวมถึงนวัตกรรมที่แสดงถึงความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีของฟอร์ดมาจัดแสดงในงาน โดยมี ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ เป็นไฮไลท์ของบูธ เพื่อให้ผู้ร่วมงานได้สัมผัสกับเทคโนโลยีล้ำสมัยในฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ อย่างใกล้ชิด และสามารถจองซื้อรถได้ในงาน

New Ford Everest  เป็นรถอเนกประสงค์ล้ำสมัยเปี่ยมด้วยสมรรถนะและเทคโนโลยีเหนือชั้นที่จะสร้างประสบการณ์การขับขี่อันเหนือระดับ ด้วยการผสมผสานความสมบุกสมบันแบบออฟโรดเข้ากับการขับขี่ที่เหนือระดับและความคล่องตัวที่เกินความคาดหมายจากรถอเนกประสงค์ทั่วไป และมีการติดตั้งเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อนประเทศไทย สะท้อนถึงความเชี่ยวชาญในการสร้างสรรค์รถยนต์อเนกประสงค์ของฟอร์ด โดยฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ที่จะนำไปจัดแสดงในงานจะมี 2 รุ่น คือ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ รุ่นเครื่องยนต์ 3.2 ลิตร ไทเทเนี่ยม พลัส แบบขับเคลื่อนสี่ล้อ และฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ รุ่นเครื่องยนต์ 2.2 ลิตร ไทเทเนี่ยม แบบขับเคลื่อนสองล้อ

Ford Everest ใหม่ ชูระบบพวงมาลัยไฟฟ้า EPAS ออกแบบเพื่อการขับอย่างมั่นใจ ปลอดภัย และประหยัดยิ่งขึ้น

$
0
0

Ford Everest ใหม่ ชูระบบพวงมาลัยไฟฟ้า EPAS ออกแบบเพื่อการขับอย่างมั่นใจ ปลอดภัย และประหยัดยิ่งขึ้น

ภายใน Ford Everest

การควบคุมพวงมาลัยรถยนต์ในสถานการณ์ที่มีลมพัดแรง บนเนินลาดชัน บนพื้นถนนขรุขระ หรือผ่านช่องอาคารแคบๆ อาจทำให้ผู้ขับขี่เกิดความวิตกกังวลได้ ผู้ขับขี่ควรมีทักษะในการควบคุมและบังคับพวงมาลัยรถยนต์อย่างแม่นยำเพื่อ ความปลอดภัยสูงสุดแม้ต้องเผชิญสภาวะการขับขี่ที่ท้าทาย

เมื่อ เร็วๆ นี้ ฟอร์ดได้เปิดตัวรถเอนกประสงค์ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ที่มาพร้อมระบบพวงมาลัยไฟฟ้า (EPAS) ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้อย่างมี ประสิทธิภาพ และนุ่มนวล

ผู้ขับขี่ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ จะได้สัมผัสประสบการณ์การควบคุมรถที่แม่นยำขึ้น ง่ายขึ้น และยังชาญฉลาดยิ่งขึ้น ระบบพวงมาลัยไฟฟ้าได้แทนที่ระบบปั๊มไฮโดรลิกด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีน้ำหนัก เบาลง โดยระบบจะปรับให้พวงมาลัยมีน้ำหนักเบาในขณะขับขี่ที่ความเร็วต่ำ เช่น กรณีเข้าช่องจอด ก่อนจะปรับมาเน้นความแม่นยำเมื่อขับขี่ที่ความเร็วสูงจึงช่วยลดความวิตก กังวลให้แก่ผู้ขับขี่ทุกครั้งที่ต้องบังคับพวงมาลัย

นอกเหนือ จากนี้ ระบบพวงมาลัยไฟฟ้าในฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ยังมอบประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันได้มากยิ่งขึ้น เนื่องจากระบบจะทำงานเท่าที่จำเป็นเท่านั้น

ระบบพวงมาลัยไฟ ฟ้าในฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี ระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะ (Active Park Assist) ที่ช่วยสแกนหาช่องว่างจอดรถที่เหมาะสมเมื่อเปิดใช้งาน โดยผู้ขับขี่มีหน้าที่เพียงควบคุมคันเร่งและเบรก และเลือกเกียร์เดินหน้าหรือถอยหลัง ขณะที่ระบบจะหมุนพวงมาลัยให้แบบอัตโนมัติ ในระหว่างเทียบจอด ช่วยทำให้การเทียบจอดรถในบริเวณที่แคบเป็นเรื่องง่าย

ด้วย เทคโนโลยีอันชาญฉลาดมากมาย รวมถึงประสิทธิภาพการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมและความสามารถในแบบ ออฟโรด จึงทำให้ฟอร์ด เอเวอเรสต์ สร้างนิยามใหม่ให้กับตลาดรถยนต์เอนกประสงค์ในประเทศไทย

ผู้ สนใจสามารถจอง ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ได้แล้ววันนี้ที่โชว์รูมฟอร์ดทุกสาขาทั่วประเทศ ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 1,269,000 บาท สำหรับรุ่นเครื่องยนต์ 2.2 ลิตร ไทเทเนี่ยม แบบขับเคลื่อนสองล้อ ส่วนรุ่นเครื่องยนต์ขนาด 3.2 ลิตร ไทเทเนี่ยม แบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ราคาอยู่ที่ 1,459,000 บาท และสำหรับรุ่นเครื่องยนต์ 3.2 ลิตร ไทเทเนี่ยม พลัส แบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ราคาอยู่ที่ 1,599,000 บาท โดยการส่งมอบรถจะเริ่มขึ้นในช่วงไตรมาสที่สามของปีนี้

ฟอร์ดเปิดสายการผลิต ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ อย่างเป็นทางการ

$
0
0

ฟอร์ดเปิดสายการผลิต ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ อย่างเป็นทางการ

Job 1 Everest

กรุงเทพฯ ประเทศไทย, 10 กรกฎาคม 2558 – ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี ฉลองการเปิดสายการผลิตของรถอเนกประสงค์ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ อย่างเป็นทางการ ณ โรงงาน ออโต้ อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย หรือเอเอที จังหวัดระยอง

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ พร้อมสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับลูกค้าที่ต้องการรถอเนกประสงค์ขนาดกลางที่มีความสมบุกสมบันแบบออฟโรดเต็มรูปแบบ พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบายในทางเรียบ และยังมีเทคโนโลยีอันชาญฉลาดมากมาย ภายนอกดีไซน์โฉบเฉี่ยว ภายในตกแต่งหรูหราและประณีต

รูปลักษณ์ภายนอกที่แข็งแกร่งสื่อถึงสมรรถนะในการขับขี่ที่เหนือชั้นพร้อมความชาญฉลาดของเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยของเอเวอเรสต์ ภายในมอบความหรูหราโดดเด่นด้วยวัสดุคุณภาพสูงที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี ทุกรายละเอียดมีความประณีตและสอดประสานกันอย่างกลมกลืนและลงตัวภายในห้องโดยสารขนาดเจ็ดที่นั่ง

Ford Everest 2015 ใหม่ มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ ระบบเกียร์แบ่งกำลังพร้อมระบบควบคุมการจ่ายแรงบิด (Torque on Demand) ระบบ Terrain Management System มีความสูงจากพื้นรถถึง 225 มิลลิเมตร สามารถลุยน้ำได้ลึกถึง 800 มิลลิเมตร และมีองศามุมไต่และมุมจากที่พร้อมให้คุณขับขี่ได้อย่างมั่นใจในทุกสถานการณ์

นอกเหนือจากสมรรถนะการขับขี่แบบออฟโรดที่โดดเด่น เอเวอเรสต์ ใหม่ ยังเพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีอันชาญฉลาดมากมายซึ่งรวมถึง ระบบสั่งงานด้วยเสียง ซิงค์ 2 (SYNC 2) ระบบตรวจจับรถในจุดบอด (Blind Spot Information System หรือ BLIS) พร้อมระบบตรวจจับรถขณะออกจากซองจอด (Cross Traffic Alert) ซึ่งจะคอยแจ้งเตือนผู้ขับขี่ในกรณีที่มีรถคันอื่นอยู่ในจุดบอด หรือมีรถตัดผ่านในขณะถอยออกจากซองจอด ระบบลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ (Roll Stability Control) ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (Electronic Stability Program) และระบบช่วยจอดอัจฉริยะ (Active Park Assist) ที่ทำให้ เอเวอเรสต์ ใหม่ เป็นหนึ่งในรถยนต์อเนกประสงค์ที่ล้ำสมัยที่สุดในตลาด

ในการฉลองการเปิดสายการผลิตดังกล่าว มีผู้บริหารของฟอร์ด ได้แก่ มร. เคนเน็ท มินิลลีย์ ผู้อำนวยการ ด้านการผลิต ฟอร์ด เอเชีย แปซิฟิก (ซ้ายหน้า) มร. มาร์ค คอฟแมน ประธาน ฟอร์ด อาเซียน (กลางหน้า) และ มร. เทรเวอร์ เนกัส (ขวาหน้า) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ออโต้ อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย เข้าร่วมฉลองกับพนักงานของ เอเอที

โรงงานออโต้ อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย จะเป็นฐานการผลิต ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ เพื่อส่งออกไปยังประเทศในภูมิภาคเอเชีย แฟซิฟิก ซึ่งในประเทศไทยจะเริ่มส่งมอบ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ให้กับลูกค้าตั้งแต่เดือนสิงหาคมนี้ เป็นต้นไป

 


ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ เพิ่มความสะดวกสบายด้วยระบบสั่งงานด้วยเสียงซิงค์ 2 ใหม่

$
0
0

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ เพิ่มความสะดวกสบายด้วยระบบสั่งงานด้วยเสียงซิงค์ 2 ใหม่

Ford Ranger SYNC2 (TH Revised)

กรุงเทพฯ ประเทศไทย, 14 กรกฏาคม 2558 – ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ รถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่งรุ่นล่าสุด มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย ผสมผสานความสมบุกสมบันแบบออฟโรดเข้ากับการขับขี่ที่เหนือชั้นและความคล่องตัวเกินความคาดหมายจากรถอเนกประสงค์ทั่วไป เพื่อนำเสนอประสบการณ์การขับขี่อันสุดพิเศษที่จะตอบโจทย์ทุกการใช้งานของสมาชิกทุกคนในครอบครัวอย่างลงตัว

ความบันเทิงสำหรับผู้โดยสารในรถอย่างครบครัน
ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ มาพร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียงรุ่นล่าสุด ซิงค์ 2 (SYNC 2) ในรถ เพื่อตอบสนองทุกความต้องการของสมาชิกในครอบครัวได้อย่างครบครัน สามารถเลือกเพลงที่อยากฟังในโทรศัพท์หรือในเครื่องเล่นเอ็มพี 3 ของคุณโดยใช้คำสั่งเสียงได้ทันที หลังจากเชื่อมต่ออุปกรณ์ดังกล่าวเข้ากับซิงค์ 2 โดยระบบช่วยให้คุณเลือกเพลงได้ทั้งจากการขานชื่อเพลง ชื่อศิลปิน อัลบั้ม รายการเพลง หรือเลือกประเภทของเพลง

นอกจากนี้ ระบบ ซิงค์ 2 ยังมาพร้อมจอทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว ที่ใช้งานง่ายด้วยเมนูควบคุมที่แบ่งจอออกเป็น 4 มุม และใช้สีที่แตกต่างกันบ่งบอกถึงฟังก์ชั่นการใช้งานหลักๆ ได้อย่างชัดเจน และมาพร้อมลำโพงคุณภาพสูงถึง 10 ตัว รวมซับวูฟเฟอร์ ที่มอบเสียงที่ชัดเจนพร้อมเสียงเบสทุ้มลึกและหนักแน่น เพื่อความสนุกสนานอย่างเต็มที่ตลอดการเดินทาง

เชื่อมต่อทุกการสื่อสารอย่างลงตัว
ในกรณีงานติดพันหรือต้องสื่อสารระหว่างการเดินทาง ระบบ ซิงค์ 2 นี้ ก็ยังช่วยเชื่อมต่อการสื่อสารให้ได้อย่างง่ายดายและให้ความปลอดภัยสูงสุด ผู้ขับขี่สามารถเชื่อมต่อโทรศัพท์เข้ากับระบบผ่านสัญญาณบลูทูธ และใช้คำสั่งเสียงในการสั่งซิงค์ 2 เพื่อการโทรออกและรับสายได้แบบ Hands-free โดยไม่ต้องละสายตาออกจากถนนหรือปล่อยมือออกจากพวงมาลัย เรียกได้ว่าทั้งสะดวกสบาย และยังปลอดภัยอีกด้วย

นอกจากนี้ ระบบซิงค์ 2 ยังสามารถอ่านข้อความ SMS ช่วยได้รับทราบข่าวสารต่างๆ โดยไม่ต้องเสียสมาธิในการขับ และที่สำคัญ ฟอร์ด ซิงค์ ยังจดจำรายละเอียดในการเชื่อมต่อโทรศัพท์ได้สูงสุดถึง 12 เครื่อง

ห้องโดยสารที่เย็นสบาย
เมื่ออุณหภูมิในห้องโดยสารร้อนหรือหนาวเกินไป ระบบ ซิงค์ 2 สามารถช่วยปรับอุณหภูมิที่เหมาะสมให้แก่ทุกคนบนรถได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย เพียงใช้เสียงสั่งการอุปกรณ์ เพื่อปรับระบบปรับอากาศ โดยผู้ขับขี่พูดคำสั่งว่า “Temperature up or down” ซิงค์ก็จะถามผู้ขับขี่กลับ เพื่อเก็บข้อมูลว่าผู้ขับขี่ต้องการให้ห้องโดยสารอุ่นหรือเย็นขึ้น รวมถึงอุณหภูมิที่ผู้ขับขี่ต้องการ และด้วยระบบการแปลความต้องการของผู้ใช้งานอย่างเป็นขั้นเป็นตอนในโปรแกรมซิงค์ 2 ทำให้ระบบสามารถจดจำ ฟัง และยังเข้าใจสิ่งที่ผู้ขับขี่ต้องการได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ ผู้ขับขี่ยังไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการสื่อสารโต้-ตอบ กับซิงค์ 2 เพราะระบบสามารถเข้าใจสำเนียงภาษาอังกฤษที่แตกต่างกันของแต่ละคนได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ อาจลองให้ลูกๆ ได้ฝึกทักษะพูดสั่งการด้วยภาษาอังกฤษกับซิงค์ 2 เพื่อเพิ่มทักษะความรู้และความสนุกสนานยิ่งขึ้นระหว่างเดินทางอีกด้วย

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ซึ่งมาพร้อมกับเทคโนโลยีอัจฉริยะมากมาย เพื่อสร้างประสบการณ์การขับขี่สุดพิเศษ และมอบความสะดวกสบายและปลอดภัยอย่างเหนือชั้นนี้ นับเป็นหนึ่งในรถยนต์อเนกประสงค์แบบออฟโรดที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัยที่สุดเท่าที่เคยมีมา และตอกย้ำการเป็นผู้นำของฟอร์ดในพัฒนาด้านเทคโนโลยีระดับโลกเพื่อช่วยเหลือในการขับขี่

Test Drive : รีวิว All-new Ford Everest พร้อมลุยทุกเส้นทางเพื่อเป็นที่หนึ่ง

$
0
0

New Ford Everest-Water

ฟอร์ด ประเทศไทย ขอกลับมาลุยตลาดรถยนต์อเนกประสงค์อย่างจริงจังอีกครั้งด้วย Ford Everest โฉมใหม่  ครั้งนี้ฟอร์ดมั่นใจอย่างมาก ว่าเป็นรถ SUV ที่ดีกว่าคู่แข่งทุกรายในตลาด  ฉีกความคิดเดิม ๆ ที่ว่ารถ PPV เป็นเพียงแค่รถกระบะดัดแปลง ให้อารมณ์การขับขี่ไม่ต่างจากรถกระบะ  แต่ฟอร์ดตั้งใจเรียก Everest โฉมใหม่นี้ว่าเป็น SUV ไม่ใช่ PPV  เพราะเป็นการพัฒนาต่อยอดที่ทำให้เกิดความแตกต่างอย่างมากเมื่อเทียบกับรถ กระบะ Ford Ranger  ต้องขอท้าให้มาพิสูจน์ทดลองขับด้วยตนเอง แล้วจะรู้ว่า Ford Everest เป็นรถ PPV ที่แตกต่างจากรถ PPV ทั่วไป แต่ถูกยกระดับจนทำให้รู้สึกเหมือน SUV

ทีมงาน 9CarThai ได้ร่วมทดสอบขับกับคณะสื่อมวลชนในแวดวงยานยนต์ที่จังหวัดเชียงราย  ทดสอบขับบนเส้นทางจริงจากพื้นราบไปสู่บนดอย ผ่านเส้นทางสุดโหดในทุกรูปแบบ รวมระยะทางกว่า 96.3 กิโลเมตร  เพื่อพิสูจน์สมรรถนะในการใช้งานจริง ไม่ใช่สนามจำลอง

SONY DSC

ในการทดสอบขับ จะมีการสลับขับจนครบทุกรุ่นและครบทุกสภาพถนน

SONY DSC

Ford Everest ที่จัดมาให้ได้ทดสอบขับ มีครบทุกสี ทั้งรุ่น 2.2L Titanium 4×2 AT (ราคา 1,269,000 บาท) และ 3.2L Titanium+ 4×4 AT (ราคา 1,599,000 บาท)  รถบางคันที่เห็นในบทความนี้ เป็นสีที่ไม่มีจำหน่ายในประเทศไทย ได้แก่ สีแดงสดและสีฟ้าคราม  แต่เนื่องจากมีสื่อมวลชนจากต่างประเทศมาร่วมทดสอบขับด้วย จึงต้องจัดมาให้ครบทุกสีที่ผลิตส่งออกจากโรงงานในไทย

 

ดีไซน์ภายนอก แกร่งและดุดันสไตล์อเมริกัน

เริ่มต้นทำความรู้จักกับ Ford Everest 2.2L Titanium กันก่อน ดีไซน์ภายนอกรอบคันให้อารมณ์แบบรถ SUV คันใหญ่ เน้นการใช้งานที่อเนกประสงค์ ใช้ประโยชน์ได้จริงในทุกรูปแบบการเดินทาง  ไม่ได้เน้นดีไซน์สปอร์ตแหลมคมโฉบเฉี่ยวแบบคู่แข่ง

SONY DSC

กระจังหน้าโครเมี่ยมขนาดใหญ่ ดูแกร่งดุดันสไตล์อเมริกันที่คนไทยคุ้นเคยกันดีในภาพยนตร์ฮอลลีวูด

SONY DSC

ไฟตัดหมอก 2 ข้างครอบด้วยบาร์สีบรอนซ์เงินชิ้นยาว ดูสวยลงตัว

SONY DSC

มือจับประตู สีเดียวกับตัวรถ, ล้ออัลลอย 6 แฉกลายใหม่ และบานประตูหลังขนาดใหญ่ เข้าออกที่นั่งได้สะดวก

SONY DSC

ไฟตัดหมอกหลัง 2 ข้างก็ครอบด้วยบาร์สีบรอนซ์เงินเหมือนไฟตัดหมอกหน้า

SONY DSC

สีขาวยอดนิยมที่คนไทยชื่นชอบ ต่อมาดูสีแดงกันบ้าง ซึ่งเป็นสีที่ฟอร์ดใช้สื่อสารในการทำตลาด

SONY DSC

SONY DSC

SONY DSC

ไฟท้ายเป็นแบบ LED Tube วางแนวรูปตัว C

SONY DSC

ย้ำอีกครั้งว่ารุ่น 2.2L ไม่มีไฟ DRL แต่แถบโครเมี่ยมในโคมไฟหน้าดูหลอกตาจนนึกว่ามี

SONY DSC

SONY DSC

SONY DSC

Emblem ตรงนี้ จะช่วยแยกความแตกต่างของรุ่น 3.2L กับ 2.2L ได้ในเบื้องต้น

SONY DSC

กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ

SONY DSC

ดูสวยงามไม่แพ้กันทั้ง 2 สี  จะสังเกตว่าในรุ่น 2.2L ไฟหน้ารถเป็นแบบ Projector แต่ไม่มีไฟ Daytime Running Light

SONY DSC

ในประเทศไทย มีให้เลือก 5 สี คือ สีขาว สีแดง ที่เห็นกันไปแล้ว และมีสีทอง สีเงิน กับสีดำ ให้เลือกเช่นกัน ส่วนราคาก็ตามในภาพ คือ

3.2L Titanium+ 4WD  1,599,000 บาท
3.2L Titanium 4WD  1,459,000 บาท
2.2L Titanium 2WD  1,269,000 บาท

เรามาดู Everest สีอื่นกันบ้าง บางสีนอกเหนือจากที่ระบุ จะไม่มีจำหน่ายในไทย ผลิตเพื่อการส่งออกอย่างเดียว

SONY DSC

SONY DSC

SONY DSC

SONY DSC

SONY DSC

ทีมงานได้ทดสอบขับรุ่น 2.2L สีดำ ส่วนสื่อท่านอื่นบ้างก็ได้ทดสอบรุ่น 3.2L แต่อย่างไรก็ตาม ก็จะสลับหมุนเวียนขับ ได้สัมผัสกันครบทุกท่าน

 

ภายในห้องโดยสาร กว้างขวาง หรูหรา สะดวกสบาย

Everest ในจำหน่ายในไทย จะได้เป็นเบาะสีเบจเท่านั้น ไม่มีสีดำให้เลือก ส่วนเพดานห้องโดยสาร ตกแต่งด้วยสีเทาเข้ม เพื่อให้ Moon Roof มีความโดดเด่น

SONY DSC

SONY DSC

เริ่มต้นที่ฝั่งผู้โดยสารตอนหน้ากันก่อน ซึ่ง Everest คันนี้เป็นรุ่น 3.2L Titanium + แน่นอนว่าอุปกรณ์และการตกแต่ง ถูกใส่เข้ามาแบบจัดเต็ม

SONY DSC

มีไฟเรืองแสงสีฟ้าคำว่า Everest สุดเท่  เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า ปรับด้วยไฟฟ้า

SONY DSC

ผนังประตูและเบาะที่นั่งสีเบจ ทำให้ห้องโดยสารดูสว่าง กว้างขวาง

SONY DSC

SONY DSC

ผนังประตู ตกแต่งด้วยหนัง มือจับด้านในและที่เปิดประตู ดูสวยงามหรูหราดี

SONY DSC

มีลำโพง Tweeter ติดตั้งมาให้ เมื่อรวมทั้งคัน มีลำโพงทั้งหมด 9 ตำแหน่ง

SONY DSC

SONY DSC

คอนโซลดีไซน์เรียบหรู ใช้งานสะดวก วางของได้ ไม่ลาดเอียง

SONY DSC

ช่องเก็บของและเอกสารด้านหน้า ความจุน้อยไปหน่อย

SONY DSC

ตกแต่งด้วยหนังสีน้ำตาลเนื้อนุ่ม เดินเส้นด้ายเย็บจริง ไม่ใช่พลาสติกขึ้นรูปหลอกตา

SONY DSC

โลโก้ Everest แห่งความภาคภูมิใจ

SONY DSC

SONY DSC

SONY DSC

เบาะที่นั่งขนาดใหญ่ นั่งสบาย รองรับสรีระได้ดี ไม่แข็ง ขับทั้งวันยังไม่รู้สึกเมื่อยล้า

SONY DSC

ปีนเข้าออกได้สะดวก ด้วยราวจับที่เสาหลังคา

SONY DSC

กระจกส่องหน้าพร้อมไฟส่องสว่างแบบเต็มแม็กซ์ และที่เก็บแว่นตา

SONY DSC

มาดูฝั่งผู้ขับกันบ้าง

SONY DSC

SONY DSC

SONY DSC

SONY DSC

ตกแต่งหรูหรา ใช้วัสดุทำสีเงินผิวด้าน เป็นรอยขีดข่วนและเห็นคราบรอยนิ้วมือได้ยากกว่าแบบโครเมียม

SONY DSC

เบาะที่นั่งปรับด้วยไฟฟ้า ปรับระดับความสูงได้เยอะมาก ทั้งตำแหน่งรองก้นและรองหลังเข่า

SONY DSC

มีที่พักเท้าซ้าย

SONY DSC

SONY DSC

ห้องโดยสารดูโปร่ง กว้าง และสว่าง

SONY DSC

ออกแบบเน้นประโยชน์ใช้สอย หยิบจับ สั่งงานได้สะดวกทุกอย่าง

SONY DSC

ไม่มีปุ่ม Push Start ใช้กุญแจแบบปกติ  ถัดไปทางขวาของช่องกุญแจ เป็นสวิตช์ปิดเปิดและปรับแสงไฟส่องสว่างหน้ารถ

SONY DSC

SONY DSC

กุญแจรีโมท พับเก็บได้ กดเปิดฝาท้ายรถได้

SONY DSC

เหนือมาตรวัด ใกล้ขอบกระจกหน้ารถ มี LED สีแดง คอยเตือนเมื่อเข้าใกล้รถคันหน้ามากเกินไป หรือมีรถขับจี้ท้ายในตำแหน่งมุมท้ายรถทั้งสองข้าง  โดยแสงสีแดงจาก LED เรียงแถว จะยิงขึ้นไปสะท้อนทำมุมกับกระจก หักเหให้ผู้ขับมองเห็นได้ชัดเจน และรู้ว่าเซ็นเซอร์ฝั่งใดที่เตือน (Front/LeftRear/RightRear)

SONY DSC

เมื่อเข้ามานั่ง ก็รู้สึกว่าตำแหน่งของเกียร์และปุ่มต่าง ๆ บนแผงคอนโซลกลาง สามารถสั่งงานได้ง่าย โดยอยู่ไม่ไกลเกินไป ไม่ต้องเอื้อมมือจนสุดแขน

SONY DSC

มาตรวัดความเร็วแบบ Analog และมีจอภาพขนาบสองฝั่ง บอกข้อมูลที่สำคัญ ทั้งความบันเทิงและการขับขี่ที่จำเป็นต้องรู้

SONY DSC

SONY DSC

ปุ่มควบคุมบนพวงมาลัยมีสองฝั่ง ปุ่มฝั่งซ้ายสำหรับสั่งงานจอแสดงข้อมูลฝั่งซ้ายของมาตรวัด และปุ่มฝั่งขวาสำหรับสั่งงานจอแสดงข้อมูลฝั่งขวานั่นเอง ลดความสับสน

SONY DSC

ตัวอย่างการแสดงข้อมูล บอกถึงระยะห่างกับรถคันข้าง ๆ รอบทิศ บอกว่ารถอยู่ในแนวระนาบหรือไม่ คิดเป็นกี่องศาเมื่อขับบนทางลาดชัน หรือทำหน้าที่เป็น Gyrometer นั่นเอง

SONY DSC

ระยะทางที่วิ่งต่อไปได้จนกว่าน้ำมันจะหมดถัง

SONY DSC

รอบต่อนาที

SONY DSC

จอภาพฝั่งซ้ายเน้นไปที่การเชื่อมต่อสื่อสารและความบันเทิงในรถ

SONY DSC

จอภาพหลัก เป็นจอภาพขนาดค่อนข้างใหญ่ สั่งงานด้วยระบบสัมผัสที่ไวดี จอภาพตัดแสงสะท้อนจากภายนอกรถได้ดี สีสันสดใส อ่านง่าย เมนูดูดีทันสมัย ใช้งานง่าย

SONY DSC

เครื่องปรับอากาศ แยกปรับอุณหภูมิอิสระซ้ายขวา

SONY DSC

วิทยุ AM / FM สแกนเร็ว ใช้งานง่าย

SONY DSC

เชื่อมต่อไร้สายกับสมาร์ทโฟนได้ง่าย เพื่อใช้ระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC 2.0

SONY DSC

มีปฏิทิน เหมือนเป็น Organizer ส่วนตัวขนาดย่อม

SONY DSC

เมนูการตั้งค่าหลักของระบบ

SONY DSC

ตั้งค่ากล้องมองหลัง ช่วยกะระยะถอยจอด

SONY DSC

ปรับระดับเสียงได้ทั้งย่านทุ้ม กลาง แหลม

SONY DSC

ตั้งค่าหรี่แสงจอภาพแบบอัตโนมัติได้ เพื่อให้เหมาะสมทั้งกลางวันและกลางคืน

SONY DSC

กำหนดให้แสดงอุณหภูมิภายนอกรถ พร้อมนาฬิกาบนจอภาพไว้ตลอดเวลาก็ได้

SONY DSC

SONY DSC

ปุ่มปรับเครื่องเสียงและเครื่องปรับอากาศ มีไฟเรืองแสงสีฟ้า สวยงามเย็นตา  เสียดายที่มีเวลาจำกัด จึงไม่ได้ทดสอบระบบ SYNC 2.0  ในส่วนของคุณภาพเสียง จะกล่าวสรุปตอนท้าย

SONY DSC

ย้ายมาดูกันต่อในห้องโดยสารที่นั่งแถวที่ 2 กับ 3

SONY DSC

เบาะนั่งใน 2 แถวหลัง สามารถพับให้เป็นระนาบเดียวกันได้โดยไม่มีขั้นบันได สามารถใส่สัมภาระชิ้นใหญ่ได้สบาย  โดยเบาะที่นั่งในแถวที่สองกับสาม พับได้ด้วยสัดส่วน 60:40 และ 50:50 ตามลำดับ

SONY DSC

ในรุ่น 3.2L Titanium + มีสวิตช์ปิดฝาท้ายด้วยไฟฟ้า ที่สามารถกดหยุดให้ค้างไว้ได้

SONY DSC

ฝาท้ายเปิดได้มุมสูง ไม่ต้องกลัวชน

SONY DSC

SONY DSC

ที่เก็บเครื่องมือเปลี่ยนล้ออะไหล่และสายไฟพ่วงแบตเตอรี่

SONY DSC

ป้องกันการขโมยล้ออะไหล่ที่ใต้ท้องรถได้ เพราะในการถอดล้ออะไหล่ จะต้องเปิดฝาท้ายแล้วใช้เครื่องมือที่มีมาให้กับรถ ไขปลดตัวล็อกที่ข้างกล่องเครื่องมือนี้เท่านั้น ไม่สามารถมุดใต้ท้องไปถอดล้ออะไหล่ออกมาได้โดยตรง

SONY DSC

ปรับพับเบาะที่นั่งแถวที่ 3 ได้ด้วยไฟฟ้า อิสระซ้ายขวา

SONY DSC

ช่องเสียบ Car Charger มีเยอะใกล้ทุกที่นั่ง

SONY DSC

มีไฟส่องห้องเก็บสัมภาระท้ายรถด้วย

SONY DSC

เชื่อว่าหลายคนคงจะชื่นชอบเบาะที่นั่งแถวที่ 3 พับขึ้นหรือราบลงได้ด้วยไฟฟ้า ทำให้ดูสะอาดตา ไม่มีเชือกดึงเบาะให้เกะกะสายตา

SONY DSC

มือจับฝาท้าย จับได้สะดวกสำหรับคนถนัดขวา

SONY DSC

กล้องมองหลังกะระยะถอยจอด มีเส้นบอกตามองศาการเลี้ยวของล้อด้วย เพื่อความแม่นยำในการจอด

SONY DSC

เรื่องที่หลายคนอยากรู้ ก็คือเบาะที่นั่งแถวหลังสุด

SONY DSC

ผู้ใหญ่ก็พอนั่งได้ แต่เหมาะกับเด็กมากกว่า เพราะผู้ใหญ่ขายาวกว่า จะกลายเป็นนั่งยอง ๆ ตลอดทาง

SONY DSC

ดึงที่รองศีรษะยืดออกมาได้สำหรับผู้ใหญ่หรือเด็กโต

SONY DSC

ช่องลมเครื่องปรับอากาศและไฟส่องสว่างสำหรับผู้โดยสารแถวหลังสุด ก็มีให้พร้อม

SONY DSC

เบาะที่นั่งแถวหลังสุด มีที่วางแขนและหลุมใส่ขวดน้ำให้ด้วย

SONY DSC

SONY DSC

การเข้าออกจากเบาะที่นั่งแถวที่ 3 ก็ไม่ยากเพราะบานประตูขนาดใหญ่เป็นพิเศษ เปิดได้กว้าง

SONY DSC

SONY DSC

ที่นั่งแถวที่ 2 สามารถนั่งได้ 3 คนโดยไม่อึดอัด มีพนักพิงศีรษะครบทุกที่นั่ง

SONY DSC

นอกจากปรับมุมพับเอนเบาะได้ ก็ยังเลื่อนเบาะเดินหน้า-ถอยหลังได้ด้วย

SONY DSC

SONY DSC

Leg room กว้าง นั่งสบาย ระยะห่างจากหัวเข่าถึงหลังเบาะหน้า เหลืออีกประมาณ 15-18 cm.

SONY DSC

สวิตช์ควบคุมเครื่องปรับอากาศ ช่องจ่ายไฟทั้ง 12V และ 220V เสียบปลั๊ก Notebook นั่งทำงานได้เลย

SONY DSC

SONY DSC

ที่วางแขนและวางแก้วเครื่องดื่ม

SONY DSC

พนักพิงศีรษะ ปรับความสูงได้เยอะ

SONY DSC

ซันรูฟ เปิดรับแสงได้กว้าง หรือเลือกเปิดรับลมได้กว้างแค่ไหนก็ได้ตามต้องการ

SONY DSC

เปิดรับแสงอย่างเดียว

SONY DSC

SONY DSC

เปิดรับลมกว้างสุด

SONY DSC

ไฟส่องสว่างและช่องลมเครื่องปรับอากาศ

 

ทำความรู้จักกับ Ford Everest

  • ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ยกระดับมาตรฐานให้ตลาดรถอเนกประสงค์ขนาดกลาง ด้วยความโดดเด่นทั้งด้านเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย และการออกแบบที่ชาญฉลาด พร้อมสร้างประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือระดับ
  • มาพร้อมโครงสร้างแบบบอดี้ออนเฟรม ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ พร้อมระบบ Terrain Management ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถฝ่าฟันอุปสรรคในทุกสถานการณ์ได้อย่างมั่นใจ
  • ช่วงล่างแบบคอยล์สปริงหน้า-หลัง พร้อมวัตต์ลิงค์ มอบประสบการณ์การขับขี่ที่นุ่มนวลและคล่องอย่างเหนือชั้น
  • ห้องโดยสารแบบ 7 ที่นั่ง กว้างขวาง ดูหรูหรา ทันสมัย และประณีตในทุกรายละเอียด
  • เทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อการเชื่อมต่อสื่อสารและช่วยเหลือผู้ขับขี่ อาทิ ระบบสั่งงานด้วยเสียงซิงค์ 2 ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ ระบบตรวจจับรถในจุดบอด พร้อมระบบตรวจจับรถขณะออกจากซองจอด ซึ่งได้รับการติดตั้งในรถระดับนี้เป็นครั้งแรก ทำให้ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ เป็นหนึ่งในรถยนต์อเนกประสงค์ที่ล้ำสมัยที่สุดในตลาด
  • ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ มาพร้อมเบาะนั่งแถวที่ 3 แบบพับเรียบด้วยระบบไฟฟ้า และประตูท้ายรถเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า เป็นครั้งแรกในรถระดับนี้ เพื่อความอเนกประสงค์และสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

New Ford Everest_4x4 Off road Mastery_TH New Ford Everest_Exterior design_TH New Ford Everest_Power & Efficiency_TH New Ford Everest_Smart Technology_TH

*คลิกเพื่อดูภาพขยายใหญ่

Ford สร้างนิยามใหม่ให้กับตลาดรถอเนกประสงค์ในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก ด้วยสมรรถนะการขับขี่อย่างเหนือชั้นทั้งการขับขี่บนทางเรียบและแบบออฟโรด พร้อมติดตั้งเทคโนโลยีอันล้ำสมัย ดีไซน์โฉบเฉี่ยวและบึกบึน สามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 7 ที่นั่ง

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ เป็นรถยนต์อเนกประสงค์สมรรถนะสูง ให้ความรู้สึกสะดวกสบายแม้ขับขี่ในเมือง หรือบนเส้นทางแบบออฟโรดที่สมบุกสมบัน  ด้วยสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม และประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกบายอย่างเหนือชั้น ทำให้ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ขับขี่ได้เกินความคาดหมายจากรถเอสยูวีแบบ 7 ที่นั่งทั่วไปในตลาดกลุ่มเดียวกัน

Ford_Everest_Concept_03hires Ford_Everest_Concept_02_hires

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ เป็นผลงานการสร้างสรรค์โดยทีมออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งได้นำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในตลาดรถอเนกประสงค์ทั่วโลกของฟอร์ดมาใช้ ทำให้ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ สามารถสานต่อความโดดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์ของ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ รุ่นปัจจุบันได้เป็นอย่างดี ทั้งในด้านความทนทานและความอเนกประสงค์ในการใช้งาน ทั้งนี้ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ นี้ มีให้เลือกทั้งแบบรุ่นขับเคลื่อนล้อหลังและขับเคลื่อนสี่ล้อ

ภายใต้รูปลักษณ์ดุดันที่สะท้อนถึงความสมบุกสมบันและเทคโนโลยีล้ำสมัย ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ที่ครบครันทั้งความแข็งแกร่ง พร้อมด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะมากมาย มีดีไซน์สวยสะดุดตา ด้วยสมรรถนะเพื่อการขับขี่แบบออฟโรดเต็มรูปแบบ และยังรักษาความเป็นรถยนต์ที่ขับสนุกในสไตล์ฟอร์ดไว้ได้อย่างครบถ้วน ด้วยความคล่องตัวบนท้องถนน พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ทั้งหรูหราและสะดวกสบาย

ความชาญฉลาดในการออกแบบเพื่อตอบสนองต่อการใช้งาน

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่โฉบเฉี่ยวแต่แข็งแกร่ง สื่อถึงสมรรถนะในการขับขี่ที่เหนือชั้นและเทคโนโลยีล้ำสมัยที่อยู่ภายใน ส่วนหน้ารถที่ดูดุดันด้วย ไฟหน้าขนาดใหญ่ พร้อมไฟวิ่งกลางวันแบบแอลอีดี อันเป็นเอกลักษณ์ของฟอร์ดควบคู่กับตัวถังที่ผ่านการทดสอบทางอากาศพลศาสตร์โดยละเอียดทุกขั้นตอน จนเกิดเป็นผลงานการออกแบบที่ผสมผสานความสวยงามและประสิทธิภาพเข้าด้วยกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ

Ford Everest on location 020

Ford Everest on location 019

ห้องโดยสารของฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ มอบความหรูหราโดดเด่นด้วยวัสดุคุณภาพสูง และเส้นสายรอบคันที่สอดประสานกันอย่างกลมกลืนและลงตัวกับภายในห้องโดยสาร 7 ที่นั่ง ที่ทั้งประณีต นั่งสบาย และใช้งานสะดวกด้วยคุณสมบัติมากมาย ทั้งหลังคาแบบพาโนรามิคมูนรูฟขนาดใหญ่ ประตูท้ายรถเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า ช่องเก็บของกว่า 30 ช่อง ช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้าสำหรับเบาะหน้าและเบาะหลัง ที่นั่งและพื้นที่เก็บของที่ปรับเปลี่ยนให้เข้ากับทุกการใช้งานได้ โดยเบาะนั่งแถวที่สองและสามสามารถพับเก็บให้แบนราบได้ทั้งสองแถว เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานและการบรรทุกสัมภาระได้อย่างลงตัว ซึ่งหลังจากพับเบาะนั่งแถวที่สองและสามแล้ว ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ จะสามารถบรรทุกสัมภาระได้ถึง 2,010 ลิตร*

เพื่อให้ห้องโดยสารปราศจากเสียงรบกวน แรงสั่นสะเทือน และความแข็งกระด้าง (NVH) ฟอร์ดจึงได้ติดตั้งเทคโนโลยีการตัดเสียงรบกวน ไว้ภายในตัวรถ ทั้งยังพัฒนาซีลกันเสียงและวัสดุดูดซับเสียงภายในห้องโดยสารให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นอีกด้วย

ขุมพลังที่เปี่ยมประสิทธิภาพและประหยัดน้ำมัน

สมรรถนะอันเหนือชั้นของ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ มาจากขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซล 2 รุ่น ในตระกูลดูราทอร์คของฟอร์ดที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก และระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด หรือเกียร์ธรรมดา และเทคโนโลยีอันทันสมัย ทำให้ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ เป็นรถที่ประหยัดน้ำมันและมอบสมรรถะในการขับขี่ที่เป็นเลิศ

Ford Everest on location 012

  • สำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการเครื่องยนต์ที่มีพละกำลังและแรงบิดสูงสุดเพื่อใช้ในการลากจูง เครื่องยนต์ดีเซลดูราทอร์ค ทีดีซีไอ วีจี เทอร์โบ ขนาด 2 ลิตร แบบ 5 สูบรุ่นล่าสุด ให้กำลังสูงสุด 200 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดถึง 470 นิวตันเมตร มอบประสิทธิภาพเหนือระดับด้วยคุณสมบัติใหม่มากมาย รวมถึงระบบหมุนเวียนไอเสียแบบใหม่เพื่อประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น
  • สำหรับผู้ที่มองหาเครื่องยนต์ที่ยังคงความประหยัดน้ำมันโดยไม่สูญเสียสมรรถนะการขับขี่ ฟอร์ดพร้อมนำเสนอเครื่องยนต์ดีเซล ดูราทอร์ค ทีดีซีไอ วีจี เทอร์โบ ขนาด 2 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 160 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดถึง 385 นิวตันเมตร

Ford Everest on location 006

ระบบเกียร์อัตโนมัติของ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ นั้น สามารถจดจำรูปแบบการขับขี่ของผู้ใช้งานแต่ละคนได้ โดยระบบสามารถวิเคราะห์ได้จากอัตราการเร่งและลดความเร็ว การใช้เบรคและคันเร่ง และการใช้ความเร็วขณะเข้า เพื่อเลือกเกียร์ที่ถูกต้องเหมาะสมในทุกสถานการณ์ โดยระบบ ยังช่วยให้ผู้ขับขี่มือใหม่สามารถขับรถได้ง่ายดายยิ่งขึ้น และช่วยให้ขับสนุกยิ่งขึ้นสำหรับนักขับมืออาชีพ

ดุลยภาพแห่งสมรรถนะ ความพร้อมลุยแบบออฟโรด และความนุ่มสบายบนท้องถนน

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ได้รับการออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมด เพื่อให้มีความทนทาน พร้อมฝ่าฟันทุกเส้นทาง ด้วยโครงสร้างแบบบอดี้ออนเฟรม ทำให้ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ มีตัวถังที่แข็งแกร่ง เหมาะสำหรับการขับขี่แบบสมบุกสมบัน นอกจากนี้ ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ ระบบเกียร์แบ่งกำลังพร้อมระบบควบคุมการจ่ายแรงบิด แบบ on Demand ระบบ Terrain Management ความสูงจากพื้นรถ ถึง 225 มิลลิเมตร สูงที่สุดในรถระดับเดียวกัน พร้อมลุยน้ำได้ที่ความลึกสูงสุด 800 มิลลิเมตร ผนวกกับความชันของมุมไต่และมุมจาก ทำให้ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ สามารถเอาชนะทุกอุปสรรคได้อย่างง่ายดาย

“ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ มอบสมรรถนะและความหลากหลายในการใช้งานอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เพื่อตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่บนทางราบและแบบออฟโรด” ฟอสตัน กล่าว “ไม่ว่าคุณกำลังขับลุยสายน้ำเชี่ยว ไต่บนเนินทราย ลุยโคลน หรือไต่หินขรุขระ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ สามารถฝ่าฟันทุกเส้นทางด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่ทรงประสิทธิภาพ”

ระบบ Terrain Management  ได้รับการออกแบบมาพร้อมกับโหมดตั้งค่าการขับขี่พิเศษสี่แบบ 1. แบบพื้นผิวทั่วไป  2. พื้นหิมะ/โคลน/หญ้า 3. พื้นทราย และ 4. พื้นหินขรุขระ โดยแต่ละโหมดจะปรับเปลี่ยนการตั้งค่า  อัตราเร่ง ระบบส่งกำลัง ระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะ และระบบควบคุมการเกาะถนน เพื่อให้ผู้ขับขี่มั่นใจในทุกสถานการณ์ ในกรณีที่ต้องเผชิญกับเส้นทางออฟโรดสุดหฤโหด ผู้ขับขี่ก็สามารถเลือกปรับโหมดขับเคลื่อนสี่ล้อที่อัตราทดรอบต่ำ เพื่อการควบคุมรถได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น

นอกเหนือไปจากสมรรถนะการขับขี่แบบออฟโรดแล้ว รถยนต์อเนกประสงค์รุ่นนี้ยังมอบประสบการณ์การขับขี่ที่นุ่มนวลและมอบความคล่องตัวในระดับที่เหนือความคาดหมาย ด้วยช่วงล่างแบบคอยล์สปริงหน้า-หลัง พร้อมวัตต์ลิงค์ที่เพลาหลัง เพื่อมอบความสะดวกสบาย และการเกาะถนนได้อย่างดีเยี่ยม เหมาะกับสภาพถนนในเมือง ให้ความรู้สึกสนุกในการขับขี่ ซึ่งเป็นดีเอ็นเอของฟอร์ดไว้อย่างเต็มรูปแบบ

เทคโนโลยีล้ำสมัย มอบความสะดวกสบายและปลอดภัยได้อย่างเหนือชั้น

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ มาพร้อมกับเทคโนโลยีอัจฉริยะมากมาย ที่พร้อมสร้างประสบการณ์การขับขี่อันสุดพิเศษ จนถือเป็นหนึ่งในรถยนต์อเนกประสงค์แบบ 7 ที่นั่ง ที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัยที่สุดเท่าที่เคยมีมา

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ติดตั้งระบบสั่งงานด้วยเสียง ซิงค์ 2 ซึ่งเป็นระบบเชื่อมต่อการสื่อสารภายในรถรุ่นล่าสุดจากฟอร์ด ผู้ขับขี่จึงสามารถใช้เสียงสั่งการอุปกรณ์เพื่อความบันเทิง ระบบปรับอากาศ และอุปกรณ์พกพาต่างๆ ที่เชื่อมต่อกับตัวรถได้อย่างเป็นธรรมชาติและสะดวกสบายยิ่งกว่าเดิม นอกจากนี้ ระบบ ซิงค์ 2 ยังมาพร้อมจอทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว ที่ใช้งานง่ายด้วยเมนูควบคุมที่แบ่งจอออกเป็น 4 มุม และใช้สีที่แตกต่างกันบ่งบอกถึงฟังก์ชั่นการใช้งานหลักๆ อย่างชัดเจน พร้อมระบบเพื่อความบันเทิงเต็มรูปแบบด้วยลำโพงคุณภาพสูงถึง 10 ตัวรวมซับวูฟเฟอร์ มอบเสียงที่ชัดเจนพร้อมเสียงเบสทุ้มลึกและหนักแน่น

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ มาพร้อมกับเทคโนโลยีอีกมากมายที่ไม่เคยปรากฏในรถอเนกประสงค์รุ่นใดมาก่อน    ไม่ว่าจะเป็น ระบบตรวจจับรถในจุดบอด (Blind Spot Information System หรือ BLIS) พร้อมระบบตรวจจับรถขณะออกจากซองจอด (Cross Traffic Alert) ซึ่งจะคอยแจ้งเตือนผู้ขับขี่ในกรณีที่มีรถคันอื่นอยู่ในจุดบอด หรือมีรถตัดผ่านในขณะถอยออกจากซองจอด

เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยอื่นๆ ได้แก่ ระบบลดความเสี่ยงจากการพลิกคว่ำ (Roll Stability Control) และระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (Electronic Stability Program) ที่ทำงานสอดประสานกับระบบควบคุมการเกาะถนน เพื่อความมั่นใจสูงสุดขณะขับขี่ ส่วนระบบช่วยจอดอัจฉริยะ (Active Park Assist) จะช่วยให้การนำรถเข้าจอดเทียบข้างเป็นเรื่องง่าย โดยที่ผู้ขับขี่จะควบคุมเพียงแค่การเหยียบคันเร่ง เข้าเกียร์ และเบรก     โดยไม่จำเป็นต้องจับพวงมาลัย ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการติดตั้งเป็นครั้งแรกในตลาดรถอเนกประสงค์ระดับเดียวกันในประเทศไทย

โดยนอกเหนือจากเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยเหล่านี้แล้ว ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ยังช่วยปกป้องผู้ขับขี่และผู้โดยสารทุกคนด้วยโครงสร้างห้องโดยสารที่แข็งแกร่งด้วยวัสดุสุดทนทานอย่างเหล็กโบรอน และอุปกรณ์ความปลอดภัยอื่นๆ อีกมากมาย อาทิ ถุงลมนิรภัย 7 จุด เพื่อป้องกันผู้โดยสารในกรณีที่เกิดการชน เป็นต้น

 

จุดเด่นของ Ford Everest

สมรรถนะแกร่งทุกเส้นทาง

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ มอบสมรรถนะที่เหนือกว่าทุกความคาดหมาย ผสมผสานความสมบุกสมบันเพื่อการขับขี่ออฟโรดในทุกสภาพพื้นถนนเข้ากับความสะดวกสบายอย่างเหนือชั้นในขณะขับขี่ โดยที่ยังรักษาความเป็นรถยนต์ที่ขับสนุกในสไตล์ฟอร์ดไว้ได้อย่างครบถ้วน ด้วยความคล่องตัวบนท้องถนน จึงพร้อมให้นักขับมืออาชีพได้ขับขี่อย่างเต็มประสิทธิภาพ และเสริมความมั่นใจให้กับนักขับมือใหม่ได้เป็นอย่างดี

ดีไซน์ช่วงล่าง

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ มีระบบช่วงล่างล้อหน้าอิสระแบบคอยล์-โอเวอร์-สตรัท ที่ได้รับการปรับแต่งเป็นพิเศษให้เหมาะกับรูปแบบการขับขี่ ทั้งแบบขับเคลื่อนล้อหลังและขับเคลื่อนสี่ล้อ ทำงานโดยอาศัยปัจจัยต่างๆ เช่น น้ำหนักตัวรถ จุดศูนย์ถ่วงรูปแบบการส่งกำลัง และการส่งแรงบิดลงสู่ล้อ เช่นเดียวกับวาล์วแดมเปอร์และสปริง ที่ได้รับการออกแบบขึ้นเพื่อมอบความนุ่มนวลและความแม่นยำสูงสุดในการขับขี่

ช่วงล่างล้อหลังแบบคอยล์สปริงช่วยเสริมความนุ่มสบาย ขณะที่เพลาหลังมีความแข็งแกร่ง เปี่ยมสมรรถนะสำหรับการขับขี่ออฟโรดและงานลากจูง มาพร้อมวัตต์ลิงค์ที่เพิ่มความคล่องตัวและแม่นยำในการควบคุม ช่วยให้ตัวรถมีความสมดุลย์มากยิ่งขึ้นขณะเข้าโค้งและตอบสนองได้รวดเร็ว จึงทำให้การขับขี่สบาย นุ่มนวล ไม่ส่ายหรือกระตุกไปมา ส่วนโช้คหลังซึ่งติดตั้งไว้นอกโครงตัวถัง ช่วยทำให้รถทรงตัวได้ดีและนั่งสบายแม้บนพื้นผิวขรุขระ

วัตต์ลิงค์

แกนช่วงล่างแบบวัตต์ลิงค์ของฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ได้รับการพัฒนาขึ้นมาทดแทนแกนแบบเดิมที่รู้จักกันในชื่อแกนแพนฮาร์ด (Panhard Rod) ถึงแม้ว่าแกนช่วงล่างทั้งสองแบบจะมีหน้าที่รักษาตำแหน่งในแนวนอนของเพลาเหมือนกัน แต่มีวิธีการทำงานและประสิทธิภาพที่แตกต่างกันอยู่ไม่น้อย

Picture1

แกนช่วงล่างแบบแพนฮาร์ดนั้น จะมีเพลาที่ติดตั้งอยู่กับส่วนใดส่วนหนึ่งของตัวถัง บนก้านโลหะในแนวขวางที่ยาวเต็มความกว้างของตัวรถ เมื่อตัวถังรถเอียงขณะเข้าโค้ง แกนดังกล่าวนี้ก็จะเคลื่อนตามไปด้วย จึงทำให้รถมีลักษณะการขับขี่ที่ไม่สมดุลย์ ซึ่งหากรถเข้าโค้งไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง ตัวถังของรถก็จะเอียงหรือบิดไปมากกว่าการเข้าโค้งในทางตรงข้าม ดังนั้น ทีมวิศวกรจะต้องออกแบบรถยนต์ทั้งคันให้เข้ากับความไม่สมมาตรในขณะเข้าโค้งนี้

สำหรับแกนช่วงล่างวัตต์ลิงค์ใน ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่นี้ ช่วยให้เพลาล้อสามารถเคลื่อนตัวขึ้นลงได้โดยแทบจะไม่ต้องมีการเคลื่อนตัวในแนวนอน ทำให้ทีมวิศวกรสามารถเสริมความแม่นยำและคล่องตัวในการขับขี่ให้กับรถได้ดียิ่งขึ้น เพื่อมอบสมรรถนะการขับขี่ที่เหนือกว่าให้ผู้ขับ

ห้องโดยสารทั้งเงียบและประณีต

วิศวกรของฟอร์ดได้ยกระดับห้องโดยสารของฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ให้เหนือชั้นยิ่งขึ้นทั้งในด้านความเงียบและความสะดวกสบาย ด้วยการออกแบบอันชาญฉลาด การวางตำแหน่งติดตั้งวัสดุซับเสียงอย่างมีหลักการ พร้อมการใช้เทคโนโลยีอันชาญฉลาด เพื่อให้ภายในห้องโดยสารทั้งเงียบและประณีตที่สุด

การออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์

ทีมวิศวกรผู้ออกแบบ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ใช้การจำลองการไหลของอากาศ การทดสอบในอุโมงค์ลม และการทดลองขับบนถนนจริงเพื่อปรับแต่งรูปทรงและการออกแบบของรถยนต์รุ่นนี้ให้มีเสียงลมน้อยที่สุด กระจกมองข้างทั้งสองถูกออกแบบให้ช่วยลดเสียงลมได้สูงสุดถึง 10 เดซิเบล ในขณะที่ขับรถโดยเปิดหน้าต่างไว้

ระบบตัดเสียงรบกวน

การขับขี่รถยนต์ที่ความเร็วต่ำแม้จะช่วยให้คุณประหยัดน้ำมัน แต่ก็ทำให้เครื่องยนต์มีเสียงความถี่ต่ำที่ดังรบกวนทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ซึ่งหากไม่มีเทคโนโลยีการตัดเสียงรบกวนนี้ วิศวกรต้องออกแบบเครื่องยนต์ที่หลีกเลี่ยงการทำงานในรูปแบบดังกล่าว ซึ่งจะทำให้รถประหยัดเชื้อเพลิงได้น้อยลง

เทคโนโลยีการตัดเสียงรบกวน มีหลักการทำงานที่คล้ายคลึงกับการต้านเสียงรบกวนของหูฟังระดับพรีเมียมโดยจะมีไมโครโฟนความไวสูงสามตัวติดตั้งไว้ภายในวัสดุบุเพดานรถ ไมโครโฟนสองตัวแรกติดตั้งไว้บริเวณเหนือเบาะนั่งแถวหน้า และอีกหนึ่งตัวติดตั้งไว้เหนือเบาะหลัง เพื่อตรวจวัดระดับเสียงจากเครื่องยนต์ ไมโครโฟนทั้งสามตัวนี้จะส่งสัญญาณเสียงที่ได้รับไปยังระบบควบคุมการตัดเสียงรบกวนแบบเรียลไทม์

และเมื่อได้รับสัญญาณเสียงแล้ว ระบบควบคุมในตัวรถจะทำการสังเคราะห์คลื่นเสียงที่ตรงข้ามกันเพื่อหักล้างกับเสียงรบกวนผ่านระบบเครื่องเสียงในตัวรถเพื่อช่วยกลบเสียงเครื่องยนต์ จนสามารถตัดเสียงรบกวนได้ในช่วงย่านความถี่ 30-180 เฮิรตซ์

วัสดุดูดซับเสียง

วัสดุดูดซับเสียงในบริเวณบานประตู หลังคา และรอบๆ ตัวถัง ล้วนมีคุณสมบัติช่วยลดเสียงรบกวนภายในห้องโดยสาร รวมถึงกระจกหน้ารถแบบซับเสียงที่ติดตั้งในบางรุ่น ล้วนได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยลดเสียงรบกวนได้ดียิ่งขึ้น

ซีลสองชั้น พร้อมบานประตูสุดหนึบ

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ติดตั้งซีลกันเสียงลมถึงสองชั้นที่ขอบประตูทุกบาน และบานประตูที่ได้รับการพัฒนาโครงสร้างให้มีความหนึบกว่าเดิมนี้ก็ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของซีลได้ดียิ่งขึ้น

ระบบส่งกำลัง

ระบบเกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติ แบบ 6 สปีดของ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ มอบความยอดเยี่ยมทั้งด้านสมรรถนะ ประสิทธิภาพ และการควบคุมรถ

เกียร์ธรรมดาแบบ 6 สปีด

เกียร์ธรรมดาแบบ 6 สปีดรุ่นใหม่ ซึ่งคันเกียร์มีลักษณะคล้ายคลึงกับเกียร์ในรถยนต์นั่ง ช่วยให้เข้าเกียร์ได้รวดเร็วและแม่นยำ พร้อมมอบความสนุกในการขับขี่ตามสไตล์รถฟอร์ด เอเวอเรสต์ สมรรถนะการลากจูงโดดเด่นด้วยตัวคลัตช์ที่ทนทาน ทำให้เครื่องยนต์ทั้งสองรุ่นของ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ สามารถรักษาระดับแรงบิดได้ดี ผู้ขับขี่จึงสามารถเลือกใช้เกียร์ได้เหมาะสมในทุกสถานการณ์ ทั้งในขณะขับขี่แบบลากจูง ออกตัวอย่างรวดเร็วหลังสัญญาณไฟ หรือขณะขับรถทางไกล

นอกจากนี้ แผงหน้าปัดของ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ยังแจ้งเตือนจังหวะการเข้าเกียร์เพื่อการขับขี่ที่ช่วยประหยัดน้ำมันกว่าเดิม ส่วนล้อส่งกำลังแบบ dual mass ก็ช่วยให้การเข้าเกียร์ราบรื่นและตอบสนองได้เร็วยิ่งขึ้น

ชุดเกียร์ธรรมดานี้มาพร้อมคุณสมบัติ Crank-in-Gear ที่ทำให้รถสามารถสตาร์ทเครื่องใหม่ได้ในโหมดขับเคลื่อนสี่ล้อแบบอัตราทดต่ำทันที โดยไม่ต้องพึ่งพาคลัตช์

เกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีด

เกียร์อัตโนมัติแบบ 6 สปีดในฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ได้รับการปรับแต่งในทุกด้านเพื่อการตอบสนองที่รวดเร็วและราบรื่น  ให้ทุกการขับขี่ยอดเยี่ยม ทั้งในเชิงสมรรถนะ การควบคุมรถ และการส่งกำลังขณะลากจูง

เมื่อขับขี่ในโหมดปกติ ชุดเกียร์อัตโนมัตินี้จะเน้นการขับขี่ที่นุ่มนวล นั่งสบาย และประหยัดน้ำมัน แต่เมื่อต้องเรียกใช้พละกำลังจากเครื่องยนต์อย่างเต็มที่ ผู้ขับขี่ก็สามารถใช้โหมดเปลี่ยนเกียร์แบบธรรมดา สปอร์ต ชิฟท์ เปลี่ยนเกียร์ตามต้องการด้วยการกดปุ่ม เพื่อเพิ่มอัตราเร่งแบบเต็มกำลัง และใช้รับมือกับสัมภาระหนักได้อย่างสบาย

ระบบเกียร์รุ่นนี้ยังมีโหมดการทำงานต่างๆ อีกมากมาย อาทิ โหมดประหยัดน้ำมัน โหมดขับขี่แบบสมรรถนะสูง โหมดสปอร์ต โหมดขึ้นเนิน ลงเนิน โหมดลากจูง โหมดขับเคลื่อนสี่ล้อแบบอัตราทดสูง และโหมดขับเคลื่อนสี่ล้อแบบอัตราทดต่ำ ซอฟต์แวร์ของชุดเกียร์จะทำงานควบคู่กับระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ESP) เพื่อตรวจสอบว่าตัวรถกำลังวิ่งอยู่บนพื้นราบ ขึ้นเนิน หรือลงเนิน ก่อนจะปรับการทำงานของเกียร์ให้เข้ากับสถานการณ์นั้นๆ

ในกรณีการขับขี่แบบลากจูงของหนักที่ความเร็วสูง ระบบเกียร์อัตโนมัติจะช่วยเลือกเกียร์ที่เข้ากับน้ำหนักของสิ่งของที่ลากจูง ซึ่งอาจจะเป็นเกียร์ 4  5 หรือ 6 ก็ได้ และเมื่อเปลี่ยนมาขับขี่ในโหมดขับเคลื่อนสี่ล้ออัตราทดต่ำ ระบบก็จะปรับจังหวะการเข้าเกียร์ให้เหมาะสมกับสภาพเส้นทางสุดวิบากที่กำลังเผชิญอยู่

ซอฟต์แวร์ของระบบเกียร์ยังสามารถจดจำรูปแบบการขับขี่ของผู้ใช้งานแต่ละคนได้ ก่อนจะปรับรูปแบบการทำงานของระบบเกียร์ให้เข้าผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี โดยระบบจะพิจารณาทั้งอัตราการเร่งและลดความเร็ว การใช้เบรกและคันเร่ง และการใช้ความเร็วขณะเข้าโค้ง เพื่อเลือกเกียร์ที่ถูกต้องเหมาะสมในทุกสถานการณ์ และป้องกันไม่ให้เกิดการเปลี่ยนเกียร์ผิดจังหวะ

ทั้งนี้ ระบบเกียร์จะใช้ฟังก์ชั่นการนับคะแนนจากลักษณะการขับขี่ที่ตรวจพบ เพื่อดูว่าจะต้องเปิดใช้งานคุณสมบัติต่างๆ ในเวลาใด โดยเริ่มจากการขับขี่แบบมาตรฐานที่เน้นความประหยัด (0 คะแนน) ก่อนจะขยับมาเป็นการขับแบบสปอร์ต (100 คะแนน) และการขับอย่างมืออาชีพ (200 คะแนน)

เมื่อระบบตรวจพบการเร่งความเร็วอย่างรวดเร็วหรือการเข้าโค้งที่ความเร็วสูง ซอฟต์แวร์ของระบบเกียร์จะเพิ่มคะแนนให้ตรงกับลักษณะการขับขี่แบบประสิทธิภาพสูง ก่อนจะปรับลดคะแนนเมื่อผู้ขับขี่ชะลอความเร็วลง

คุณสมบัติการปรับเปลี่ยนระบบเกียร์ตามการขับขี่นี้ จะช่วยให้รถมีสมรรถนะการขับขี่และการประหยัดน้ำมันที่ยอดเยี่ยมยิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังอีกด้วย

ขุมพลังที่เปี่ยมประสิทธิภาพ

ฟอร์ด   เอเวอเรสต์ ใหม่ เป็นรถที่ประหยัดน้ำมันและมอบสมรรถะในการขับขี่ที่เป็นเลิศ ด้วยเทคโนโลยีเครื่องยนต์อันล้ำสมัย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ดีเซลแบบ 5 สูบ ขนาด 3.2 ลิตร ที่พร้อมรับมือกับงานลากจูงและเส้นทางออฟโรดสุดโหด หรือเครื่องยนต์ดีเซลแบบ 4 สูบ ขนาด 2.2 ลิตร ที่ให้ความประหยัดน้ำมันดีเยี่ยม

ระบบเทอร์โบแปรผัน Variable Geometry Turbocharger (VGT)

ระบบเทอร์โบแปรผัน หรือ วีจี เทอร์โบ (VGT) ช่วยเพิ่มพละกำลังและแรงบิดของเครื่องยนต์ด้วยการควบคุมมุมใบพัดภายในตัวเทอร์โบด้วยระบบไฟฟ้า ซึ่งการปรับมุมใบพัดแบบหลากหลายนี้จะทำให้เทอร์โบสามารถควบคุมแรงดันการเร่งได้อย่างแม่นยำมากขึ้น จึงทำให้เครื่องยนต์มีแรงบิดสูงในช่วงรอบต่ำ และยังสามารถประหยัดน้ำมันได้อย่างดีเยี่ยม

ตัวกรองอนุภาคน้ำมันดีเซลพร้อมระบบไอระเหย Coated Vaporized Diesel Particulate Filter (cDPF) with Vaporizer

ตัวกรองอนุภาคน้ำมันดีเซลหรือ cDPF พร้อมระบบไอระเหยนี้ช่วยให้ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ มีระดับการปล่อยอนุภาคไอเสียตรงตามมาตรฐานยูโร 5 โดยระบบดังกล่าวจะใช้ความร้อนเพื่อทำให้น้ำมันเชื้อเพลิงจำนวนหนึ่งระเหยเป็นไอ และปล่อยเข้าสู่ระบบท่อไอเสียเพื่อรวมกับก๊าซไอเสียต่างๆ จากนั้น ระบบไอระเหยจะจุดระเบิดเพิ่มความร้อนของไอนี้ให้มีอุณหภูมิสูงถึง 600 องศาเซลเซียส ขณะที่ก๊าซเสียเคลื่อนผ่านชุดกรอง cDPF เพื่อกำจัดอนุภาคไอเสียออกไปได้ด้วยความร้อน

ระบบหมุนเวียนก๊าซไอเสีย

ระบบหมุนเวียนก๊าซไอเสีย หรือ EGR รุ่นใหม่ ในฟอร์ด เอเวอเรสต์ สามารถทำความเย็นกับก๊าซไอเสียได้ดียิ่งขึ้น โดยอาศัยชุดวาล์วเพียร์เบิร์ก (Pierberg) และท่อไอดีแบบใหม่ที่มีลิ้นปีกผีเสื้อ (throttle body) ติดตั้งอยู่ตรงกลาง ช่วยทำให้เครื่องยนต์สามารถส่งไอดีและไอเสียไปยังแต่ละกระบอกสูบได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพิ่มการควบคุมระดับการไหลของก๊าซ และสามารถลดปริมาณก๊าซไนโตรเจนออกไซด์ที่ปล่อยออกสู่ภายนอกลงได้เช่นกัน

หัวฉีดไดเรค อินเจคชั่นความดันสูง

ระบบหัวฉีดน้ำมันในเครื่องยนต์ดูราทอร์ครุ่นล่าสุดทำงานที่ความดัน 1,800 บาร์ ทั้งยังมาพร้อมกับมุมโคนหัวฉีดที่ปรับเปลี่ยนใหม่ ช่องฉีดเชื้อเพลิงที่มากขึ้น และอัตราการไหลของเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น ส่วนหัวฉีดแบบเพียโซ (piezo) ก็ช่วยเสริมความแม่นยำในการฉีดเชื้อเพลิงเข้าสู่เครื่องยนต์ จึงทำให้การเผาไหม้เชื้อเพลิงเป็นไปอย่างสะอาดและสมบูรณ์ เพิ่มทั้งพละกำลังและแรงบิดของเครื่องยนต์ ทั้งยังช่วยลดอัตราการใช้น้ำมันและปริมาณก๊าซไอเสียลงอีกด้วย ระบบหัวฉีดของ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ นี้ได้รับการปรับแต่งในทุกรายละเอียดเพื่อให้สามารถเผาไหม้เชื้อเพลิงได้อย่างราบรื่น เครื่องยนต์จึงเดินเรียบ ไม่มีสะดุด มอบประสิทธิภาพสูงสุด

ปั๊มเชื้อเพลิงแบบ Variable Flow

ปัมเชื้อเพลิงรุ่นนี้จะช่วยจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงมาใช้เท่าที่จำเป็น ทำงานในเวลาที่สั้นลงใช้พลังงานน้อยลง และช่วยประหยัดน้ำมันมากขึ้น ระบบการไหลเวียนของเชื้อเพลิงในตัวรถด้รับการปรับจูนใหม่ เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้ราบรื่นกว่าเดิม

เทคโนโลยีการขับขี่แบบออฟโรด

ระบบเกียร์แบ่งกำลังพร้อมระบบควบคุมการจ่ายแรงบิดแบบ on Demand ระบบ Terrain Management System และเฟืองท้ายแบบ Electronic Locking Rear Differential ใน ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ทำงานประสานกันเป็นอย่างดีเพื่อมอบสมรรถนะการขับขี่แบบออฟโรดที่ยอดเยี่ยม ทำให้ตัวรถยังสามารถเคลื่อนไปข้างหน้าได้ แม้ขณะที่ล้อหน้าทั้งสองและล้อหลังข้างหนึ่งอยู่บนพื้นน้ำแข็งที่เรียบลื่น ตราบที่ล้อหลังอีกล้อยังยึดอยู่บนพื้นผิวนั้น

ระบบเกียร์แบ่งกำลัง (Active Transfer Case)

ระบบเกียร์แบ่งกำลังอลูมิเนียมแบบสองสปีด ติดตั้งด้านซ้าย เยื้องศูนย์เดี่ยว (left hand drop / single offset)

  • ทำงานแบบขับเคลื่อนสี่ล้อได้สองสปีด
    • อัตราทดสูง 1:1
    • อัตราทดต่ำ 48:1
  • ควบคุมด้วยสวิทช์เพียงตัวเดียว
  • อัตราแรงบิดหน้า-หลังแบบตายตัวในโหมดขับเคลื่อนสี่ล้ออัตราทดต่ำ
  • หน้าแปลนล็อกเพื่อส่งกำลังสู่ล้อทั้งสี่
  • หล่อลื่นภายในด้วยปั๊มโรตารี
  • มอบสมรรถนะการเกาะถนนที่ดีเยี่ยม

เฟืองท้ายแบบ Electronic Locking Rear Differential

ผู้ขับขี่สามารถสั่งล็อคเฟืองท้ายได้ด้วยตนเองเพื่อเพิ่มการยึดเกาะถนนแบบสูงสุด ในกรณีที่สั่งล็อคแล้ว แม้ว่าล้อใดล้อหนึ่งจะไม่ได้สัมผัสกับพื้นผิวการขับขี่ ล้อที่เหลืออยู่จะยังได้รับแรงบิดจากเพลาอย่างเต็มที่ ทำให้สามารถขับเคลื่อนรถต่อไปได้ และหากใช้คู่กับระบบ Terrain Management System ผู้ขับขี่จะสามารถล็อคเฟืองท้ายของรถได้ในระยะความเร็วที่สูงขึ้นอีกด้วย

ระบบ Terrain Management System (TMS)

โหมดตั้งค่าการขับขี่ทั้งสี่รูปแบบ ช่วยให้ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ มีสมรรถนะสูงสุดในทุกสภาพการขับขี่ โดยแต่ละโหมดจะปรับเปลี่ยนการทำงานของระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ระบบส่งกำลัง ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และความไวของคันเร่ง

  ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ระบบส่งกำลัง เบรกและระบบป้องกันล้อหมุนฟรี คันเร่ง
พื้นผิวทั่วไป ปรับแต่งให้เหมาะสมกับการขับขี่บนท้องถนน ด้วยอัตราส่วนแรงบิดล้อหลังและล้อหน้าที่ 60-40 โดยจะปรับระดับแรงบิดที่ส่งไปยังล้อหน้าให้เหมาะกับการหักเลี้ยวและการเร่งความเร็ว และลดการลื่นไถลให้น้อยที่สุด ทำงานแบบปกติ ทำงานแบบปกติ ทำงานแบบปกติ
หิมะ / โคลน / หญ้า เพิ่มแรงบิดเพื่อเสริมการควบคุมรถบนพื้นผิวลื่น เปลี่ยนเกียร์สูงให้เร็วขึ้น และปรับลดเกียร์ต่ำให้ช้าลง เพื่อให้รอบเครื่องต่ำ ควบคุมง่าย เพิ่มการยึดเกาะถนน ลดการลื่นไถล ลดความไวคันเร่งลงเพื่อควบคุมความเร็วที่แม่นยำมากขึ้น
ทราย เพิ่มแรงบิดสูง และสามารถล็อคเฟืองท้ายที่ความเร็วสูงกว่าโหมดอื่นๆ ปรับการเปลี่ยนเกียร์สูง-ต่ำให้ช้าลง ป้องกันไม่ให้มีการเปลี่ยนเกียร์หากไม่ได้เหยียบคันเร่ง และจะปรับลดเกียร์อย่างรวดเร็วเมื่อแตะเบรก เพื่อรักษาสมดุลของตัวรถ ปล่อยให้ล้อรถลื่นไถลได้มากขึ้น เพื่อให้รถสามารถรักษาสมดุลและขับเคลื่อนต่อไปได้ เพิ่มความไวคันเร่ง เพื่อให้เครื่องยนต์ตอบสนองได้เร็วต่อทุกสัมผัส
หิน เพิ่มแรงบิดสูงสุดสำหรับพื้นผิวการขับขี่แบบวิบาก ให้ ใช้งานได้ในโหมดอัตราทดต่ำเท่านั้น ป้องกันไม่ให้มีการเปลี่ยนเกียร์สูง และจะปรับเกียร์ลงเป็นเกียร์ 1 แทน เพื่อการควบคุมรถอย่างแม่นยำบนพื้นผิวขรุขระ ลดการลื่นไถลของล้อด้วยประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อให้รถเกาะถนน ลดความไวคันเร่งลงเพื่อการควบคุมความเร็วที่แม่นยำมากขึ้น
อัตราทดเกียร์ต่ำ เพิ่มแรงบิดสูงสุดสำหรับพื้นผิวการขับขี่แบบวิบาก ปรับการเปลี่ยนเกียร์สูง-ต่ำให้ช้าลง เพื่อรักษาการควบคุมรถบนพื้นผิวออฟโรด และป้องกันไม่ให้มีการเปลี่ยนเกียร์สูงหากไม่ได้เหยียบคันเร่ง และจะเปลี่ยนเป็นเกียร์ต่ำอย่างรวดเร็วเมื่อเหยียบเบรก ลดการลื่นไถลของล้อด้วยประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อให้รถเกาะถนน ลดความไวคันเร่งลงเพื่อให้ควบคุมความเร็วได้แม่นยำมากขึ้น

ผู้ขับขี่จะสามารถเปลี่ยนโหมดจากอัตราทดสูงเป็นอัตราทดต่ำได้เมื่อรถหยุดนิ่งเท่านั้น โดยโหมดอัตราทดต่ำจะมอบการควบคุมรถแบบแม่นยำสูงสุดที่ความเร็วต่ำไม่เกิน 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

 

เส้นทางทดสอบขับ Ford Everest

ฟอร์ด ประเทศไทย จัดทริปนำคณะสื่อมวลชนร่วมสัมผัสประสบการณ์การขับขี่เหนือระดับของฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ เป็นครั้งแรก ณ จังหวัดเชียงราย

Activity life style media 013 Activity life style media 015

ในวันแรกของการเดินทาง ฟอร์ด นำสื่อมวลชนมุ่งหน้าสู่ไร่บุญรอด เพื่อรับประทานอาหารกลางวันท่ามกลางไร่ชาที่รายล้อมด้วยทะเลสาบ ซึ่งไร่บุญรอดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่มีพื้นที่สำหรับปลูกชาอู่หลงและพืชพรรณอื่นๆ กว่า 600 ไร่

Activity life style media 008 Activity life style media 005

จากนั้น จึงออกเดินทางสู่วัดร่องขุ่น เพื่อแวะชมศาสนสถานสำคัญประจำจังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นผลงานการออกแบบและก่อสร้างโดยอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ซึ่งคณะสื่อมวลชนได้มีโอกาสร่วมชื่นชมสถาปัตยกรรมและศิลปะไทยสมัยใหม่ที่เน้นการตกแต่งด้วยโทนสีขาวบริสุทธิ์สลับกับสีทองอร่าม พร้อมการประดับด้วยกระจกขาวจับประกายระยิบระยับจากทุกบริเวณโดยรอบ จากนั้น ฟอร์ดได้พาสื่อมวลชนเดินทางสู่ร้านชีวิตธรรมดา ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำกก เพื่อรับประทานอาหารว่างและจิบกาแฟท่ามกลางสวนสีเขียวและบรรยากาศตกแต่งสไตล์อังกฤษ

SONY DSC

หลังจากนั้นจึงเดินทางเข้าพักผ่อนที่ เลอ เมอริเดียน เชียงราย รีสอร์ท โดยฟอร์ดได้จัดอาหารค่ำต้อนรับคณะสื่อมวลชน ณ ห้องอาหารอิตาเลี่ยน ฟาโวลา ริมแม่น้ำกก ก่อนพาเที่ยวชมตลาดเชียงรายไนท์บาร์ซาร์ เพื่อชมและเลือกซื้อสินค้าหัตถกรรมพื้นบ้าน

SONY DSC

ในเช้าวันรุ่งขึ้น ก็ถึงเวลาทดสอบสมรรถนะของรถฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ บนระยะทางไป-กลับเฉียดร้อยกิโลเมตร โดยเริ่มออกเดินทางจากที่พัก ผ่านเส้นทางในพื้นที่ชนบทตำบลดอยฮาง  พักรับประทานอาหารกลางวันที่ คะเนรี่ เนเชอรัล รีสอร์ท ก่อนออกเดินทางตามเส้นทางบนเนินเขามุ่งหน้าสู่หมู่บ้านชาวเขาเผ่าอาข่า เพื่อชมการแสดง “หล่า เฉ่อ บี่ เออ” ประเพณีโล้ชิงช้าของชาวเขาเผ่าอาข่า ซึ่งเป็นประเพณีรื่นเริง เพื่อรำลึกถึงพระคุณแห่งเทพธิดา “อึ่มซาแยะ” ผู้ประทานความอุดมสมบูรณ์ให้กับพืชพันธุ์ธัญญาหาร

SONY DSC

SONY DSC

SONY DSC

SONY DSC

โดยตลอดเส้นทางบนภูเขาอันคดเคี้ยวนี้ พิสูจน์สมรรถนะอันเหนือชั้นสำหรับการขับขี่แบบออฟโรด และสัมผัสสุดยอดเทคโนโลยีอันล้ำสมัยต่างๆ ที่ได้รับการติดตั้งในฟอร์ดเอเวอเรสต์ ใหม่ ได้แก่ ระบบพวงมาลัยไฟฟ้า หรือ ระบบ Electric Power-Assisted Steering (EPAS) โดยระบบพวงมาลัยไฟฟ้าดังกล่าวนี้ จะปรับให้พวงมาลัยมีน้ำหนักเบาในขณะขับขี่ที่ความเร็วต่ำ เช่น กรณีเข้าจอด และในขณะเดียวกัน ก็สามารถปรับเน้นความแม่นยำเมื่อขับขี่ที่ความเร็วสูง จึงช่วงลดความวิตกกังวลให้แก่ผู้ขับขี่ทุกครั้งที่ต้องบังคับพวงมาลัยแม้ในสถานการณ์การขับขี่ที่ยากลำบาก

SONY DSC

SONY DSC

SONY DSC

ระบบ Terrain Management ที่มาพร้อมกับโหมดการตั้งค่าการ ขับขี่พิเศษที่สามารถปรับเปลี่ยนการตั้งอัตราเร่ง ระบบส่งกำลัง ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ และระบบควบคุมการเกาะถนน เพื่อเพิ่มความมั่นใจระหว่างการขับขี่ในทุกสถานการณ์  ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ 1) บนพื้นผิวถนนทั่วไป 2) บนพื้นหิมะ/ โคลน/ หญ้า 3) บนพื้นทราย และ 4) บนพื้นหินขรุขระ  หรืออย่างเส้นทางออฟโรดสมบุกสมบันในครั้งนี้ ที่มีทั้งการขับลุยข้ามลำธาร ทางหินกรวด ขึ้นเขา ลุยโคลน ลุยทุกพื้นผิว สื่อมวลชนสามารถเลือกปรับโหมดขับเคลื่อนสี่ล้อที่อัตราทดรอบต่ำ เพื่อการควบคุมรถที่แม่นยำยิ่งขึ้นได้อีกด้วย

Ford Everest drive 042

Ford Everest drive 019 Ford Everest drive 018 Ford Everest drive 006 Ford Everest drive 007 Ford Everest drive 008 Ford Everest drive 010

หลังจากที่ทดสอบสมรรถนะการขับขี่บนเส้นทางแบบออฟโรดแล้ว จึงเดินทางกลับสู่ตัวเมืองจังหวัดเชียงราย เพื่อทดสอบสมรรถนะการขับขี่บนถนนในเมืองที่เป็นทางเรียบ ซึ่งฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ มาพร้อมกับเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยต่างๆ มากมาย เพื่ออำนวยความสะดวกและความมั่นใจในระหว่างการขับขี่สูงสุด โดยมาพร้อมกับ ระบบตรวจจับรถในจุดบอด หรือ ระบบ Blind Spot Information (BLIS) พร้อมระบบตรวจจับรถขณะออกจากซองจอด (Cross Traffic Alert) ซึ่งจะคอยแจ้งเตือนผู้ขับขี่ในกรณีที่มีรถคันอื่นอยู่ในจุดบอดหรือเมื่อมีรถตัดผ่านในขณะถอยออกจากซองจอด นอกจากนี้ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ นี้ ยังมาพร้อม ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ (Active Park Assist) เพื่อให้การนำรถเข้าจอดเทียบข้างเป็นเรื่องง่าย โดยที่ผู้ขับขี่ควบคุมเพียงแค่การเหยียบคันเร่ง เข้าเกียร์ และเบรก โดยไม่จำเป็นต้องจับพวงมาลัย จึงช่วยลดความวิตกกังวลแก่ผู้ขับขี่มือใหม่เมื่อต้องถอยจอดในบริเวณที่แคบต่างๆ ในเมือง

Ford Everest drive 004

และปิดท้ายกิจกรรมในครั้งนี้ ด้วยมื้ออาหารค่ำที่ร้านอาหารหลู้ลำ ร้านอาหารพื้นเมืองที่มีชื่อเสียงของเชียงราย ที่เปิดให้บริการมานานกว่า 30 ปี เมื่ออิ่มท้องแล้วจึงเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ

 

บทสรุปและความประทับใจใน Ford Everest

New Ford Everest-Bridge

  • ดีไซน์ภายนอก ถูกใจตั้งแต่แรกเห็น  ดูแกร่ง ใหญ่ ดุดัน พร้อมลุยไปได้ทุกที่ทุกเส้นทาง ลุยน้ำได้ดี  ใครที่ชื่นชอบดีไซน์ของ Ford Ranger อยู่แล้ว ก็คงจะชอบ Ford Everest ด้วยเช่นกัน เหมาะสมทั้งใช้งานออนโรดในเมืองและออฟโรดในทริปขึ้นเขาลงห้วย  เมื่อเทียบ Ford Everst กับคู่แข่งอย่าง Toyota Fortuner ก็ถือว่าสวยคนละแบบ สวยพอ ๆ กันทั้งสไตล์อเมริกันและญี่ปุ่น

SONY DSC

  • ระบบพวงมาลัยพาวเวอร์ช่วยผ่อนแรงบังคับล้อแบบไฟฟ้าหรือ ระบบ  Electronic Power Assisted Steering (EPAS) เป็นสิ่งแรกที่ประทับใจมากตั้งแต่เริ่มออกตัวครั้งแรกจากที่พัก  เป็นสิ่งที่ฟอร์ดภูมิใจนำเสนออย่างยิ่ง  ซึ่งเคยมีแต่ในรถยนต์ราคาแพงหลายล้านบาท ถูกนำมาติดตั้งในฟอร์ดคันนี้  เชื่อมั่นว่าสาว ๆ จะชื่นชอบ เพราะในขณะที่รถจอดนิ่งหรือเคลื่อนตัวช้า ๆ เช่น เลี้ยวออกจากซอย หรือถอยจอด พวงมาลัยเบามาก หมุนเบา ๆ แบบไม่เหนื่อย แต่เมื่อออกตัวทำความเร็วสูงขึ้น น้ำหนักพวงมาลัยจะเพิ่มขึ้นในอัตราส่วนที่เหมาะสมลงตัวที่สุด  สรุปว่าน้ำหนักพวงมาลัยออกแบบมาได้ยอดเยี่ยมที่สุดในทุกอัตราความเร็วของรถที่เคลื่อนที่ไป

SONY DSC

  • ระบบช่วงล่างซับแรงสะเทือนได้ยอดเยี่ยม  ตลอดเส้นทางที่ทดสอบทั้งบนถนนทางหลักและเส้นทางสุดโหด เราได้พยายามทดสอบด้วยการขับให้รถวิ่งผ่านหลุมที่ไหล่ทาง ผิวถนนที่ชำรุด รวมทั้งลูกระนาด  แต่ประทับใจมากยิ่งกว่า PPV หลายรุ่นในตลาดที่ได้ทดสอบขับก่อนหน้านี้  เพราะรถนิ่งมาก ซับแรงสะเทือนดีเยี่ยม นิ่ง-นุ่ม-แน่น เป็นสามคำที่ต้องยกให้กับ Everest  ได้อารมณ์เหมือนขับรถเก๋งหรูหลายล้านบาท ไม่มีอาการสะเทือนหรือสะท้อนความกระด้างจากถนนขรุขระให้เห็นเลย ผิดกับรถกระบะหรือ PPV ทั่วไปอย่างชัดเจน

SONY DSC

  • เสถียรภาพการทรงตัวที่ดี มีระบบช่วยควบคุม ลดแรงบิดของเครื่องยนต์ ช่วยเบรกแต่ละล้ออิสระ ในช่วงเวลาที่ขับแบบออฟโรด มีโหมดอัจฉริยะช่วยในการขับเคลื่อน ผ่านทุกอุปสรรคไปได้ง่าย ๆ แม้ว่ามีบางล้อที่ไม่ได้สัมผัสกับพื้นถนนหรือกำลังเจอปัญหา  ระบบก็ส่งกำลังไปยังล้ออื่นที่เหลืออยู่  ในขณะขับบนทางหลวงที่มีโค้งซิกแซกมากมายหรือเลี้ยวหักศอก  รถก็ยังทรงตัวได้ดีมากแม้ขับมาด้วยความเร็วสูง เกาะถนนดีเยี่ยม ไม่มีอาการหลุดโค้งหรือเป๋ไปทิศทางใด ๆ

SONY DSC

  • ในรุ่น 2.2L ไม่มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ  แต่ก็ทรงตัวได้ดีเยี่ยมบนทางหลวง ขับสนุก เกาะถนนดีเครื่องยนต์เงียบมาก ห้องโดยสารเงียบ แรงบิดสูง แซงได้ทันใจ  หากใครที่ไม่เน้นการขับแบบออฟโรด ในรุ่น 2.2L Titanium ก็เพียงพอแล้ว ไม่อืดอย่างที่คิดไว้ตอนแรก แรงเกินตัวจนน่าตกใจ และยังประหยัดน้ำมันอีกด้วย

SONY DSC

  • ทดสอบการเล่นเพลงแนว EDM และ Pop สนุก ๆ ที่คุ้นเคยกันดีกับเครื่องเสียงของ Ford Everest  ต้องตะลึงกับเสียงที่ได้ยิน ลำโพง 10 ตัวรอบคัน มี Subwoofer อยู่ที่ท้ายรถ ให้เสียงเบสที่ลึก แน่น แรงสะใจวัยรุ่นจริง ๆ กำลังขับของภาคขยายเสียง บอกได้เลยว่าเหลือเฟือ มิติเสียงดี ฟังสนุก เหมาะกับเพลงทุกแนว ย่านเสียงทุ้ม กลาง แหลม มาครบ ฟังสบาย  สั่งงานด้วยเสียงได้ด้วย โดยไม่ต้องใช้สำเนียงภาษาอังกฤษที่เป๊ะมากนัก  SYNC 2.0 พัฒนาใหม่ใช้งานได้ดียิ่งขึ้น  เสียดายที่ไม่มีเวลาทดลองลูกเล่นอื่น ๆ ของ SYNC 2.0 เพิ่มเติม

Ford Everest on location 021 Ford Everest on location 022

  • ห้องโดยสารกว้าง นั่งสบาย ขับทั้งวันชิลๆได้เลย รับรองเมื่อยน้อยกว่าคู่แข่งแน่นอน ผู้โดยสารก็เช่นกัน ห้องโดยสารหรูหราสะอาดตา มีช่องลมจากเครื่องปรับอากาศ เป่าทั่วถึงเย็นเร็วทันใจทั้ง 7 ที่นั่ง  ปรับความเย็นได้อิสระ พร้อมช่องเสียบ Car Charger ทั่วทุกตำแหน่ง ชาร์จสมาร์ทโฟนได้สะดวก ไม่ต้องถือ Power Bank ขณะเล่น Social ในรถ  การเข้าออกในแต่ละที่นั่ง ก็สะดวกดี

SONY DSC

  • เบาะแถวหลังสุดพับด้วยไฟฟ้า เบาะแถวกลางก็พับลงได้ง่าย ใส่สัมภาระชิ้นใหญ่ได้สบาย กว้างและลึกแค่ไหน ลองดูจากเพื่อนสื่อมวลชนจาก Kapook.com เข้าไปนอนยังได้  ขาช้อปที่ชอบเที่ยวแล้วซื้อของเยอะ ๆ รับรองว่า Everest ตอบโจทย์ได้แน่นอน พื้นที่วางสัมภาระมากถึง 2010 ลิตร

SONY DSC

  • ระบบล็อกเฟืองท้ายแบบไฟฟ้าป้องกันการลื่นไถลของล้อหลังได้จริงเมื่อขับแบบออฟโรด  ระบบควบคุมความเร็วขณะลงเขา ที่ช่วยให้ปลอดภัย แค่บังคับพวงมาลัยอย่างเดียว ไม่ต้องเหยียบคันเร่งหรือเบรกเลย รถก็จะขับเคลื่อนที่ช้า ๆ ลงเขาเองอย่างปลอดภัย

Ford Everest drive 017

  • สมัยนี้น้ำท่วมบ่อยก็ไม่กลัว เพราะ Ford Everest ลุยน้ำลึกได้ถึง 0.8 เมตร  น้ำท่วมเสมอล้ออย่างในภาพ ก็ลุยได้แน่นอน บวกกับระบบขับเคลื่อนที่ดีเยี่ยม ด้วยการขับทดสอบลุยน้ำในลำธารมาแล้ว ใต้พื้นน้ำเป็นลูกหินทั้งนั้น แต่รถก็ผ่านมาได้สบาย ๆ  เรื่องขับลุยน้ำ ต้องยกให้ฟอร์ด ทั้ง EcoSport, Ranger, Everest ก็ผ่านได้แบบไม่มีปัญหา

SONY DSC

  • เป็นแนวคิดที่ดีที่มีจอแสดงผลสองฝั่ง สั่งงานด้วยปุ่มบนพวงมาลัยแยกสองฝั่งเช่นกัน ทำให้ไม่สับสน  ดูข้อมูลได้ไม่ต้องละสายตาจากถนน  และที่ถูกใจอีกอย่าง คือมี Sensor ทำงานตลอดเวลา ช่วยเตือนเมื่อมีรถคันอยู่ใกล้มากเกินไป ทั้งข้างหน้าและด้านข้างเยื้องไปข้างหลัง  ช่วยลดอุบัติเหตุจากการแซงในบางจุดที่เรามองไม่เห็นว่ามีรถคันอื่นอยู่ในระยะใกล้ หรือมองไม่เห็นจากกระจกมองหลัง

 

เปรียบเทียบกับรถ PPV จากคู่แข่ง

  • Toyota Fortuner โดดเด่นที่ดีไซน์ภายนอก สปอร์ตโฉบเฉี่ยว ไฟหน้าและไฟท้ายสวยงามแหลมคม ดูทันสมัย ศูนย์บริการที่ทุกคนไว้วางใจ  แต่ยังด้อยกว่าฟอร์ดอย่างชัดเจนในหลายด้าน เช่น เสียงเครื่องยนต์ดังเข้ามาในห้องโดยสาร  เสียงรบกวนภายนอกจากยังเข้ามาได้ค่อนข้างมาก ระบบเครื่องเสียงและเทคโนโลยีล้ำสมัยในด้านความบันเทิงและระบบอัจฉริยะช่วยขับเคลื่อนในแบบออฟโรด  ยังห่างชั้นกับ Ford Everest อย่างมาก ถ้าได้ลองขับเปรียบเทียบกัน จะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนมาก และราคาก็แพงที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งทั้งหมด
  • Mitsubishi Pajero Sport กระแสตอบรับที่มาแรงอย่างมากจากการเปิดตัวสู่สาธารณชนในงาน BIG Motor Sale 2015  ผู้คนสนใจอย่างล้นหลาม ด้วยดีไซน์ที่สวยล้ำ เบาะนั่งแถวสองสามารถพับยกขึ้นได้ เข้าออกไปยังเบาะนั่งแถวสามได้อย่างสะดวก  เบาะแถวสามก็กว้างและนั่งสบายกว่าคู่แข่ง  ราคาเปิดตัวเพียง 1,138,000 – 1,450,000 บาท บวกกับดีไซน์ที่ทันสมัย ทำให้หลายคนถูกใจอย่างมาก เริ่มส่งมอบลูกค้าช้าหน่อย ประมาณไตรมาส 4/2558 เป็นต้นไป
  • Nissan ยังไม่มี PPV ในตลาด แต่คาดว่าในปี 2016 จะส่ง PPV ลงตลาด โดยพัฒนาต่อยอดจาก NP300 Navara  เน้นห้องโดยสารที่หรูหราคล้าย Teana ผสมกับ X-Trail ต้องติดตามกันต่อไป
  • Isuzu MU-X กับ Chevrolet Trailblazer คู่แฝดที่คล้ายกันอย่างมากเพราะใช้โครงสร้างหลักร่วมกัน  มีสมรรถนะการขับแบบออฟโรดที่ดีเช่นกัน  ถูกใจขาลุย นักท่องเที่ยวธรรมชาติ  แต่สไตล์การขับขี่ยังให้ความรู้สึกเหมือนรถกระบะยกสูง  ห้องโดยสารมีเสียงดังมาก ช่วงล่างที่กระด้าง แรงสะเทือนเยอะมาก ไม่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ชอบความนุ่มนวล

ข้อสังเกต

Ford Everest เป็นรถที่ดีมาก เหนือชั้นกว่า PPV ทุกรุ่นในตลาด (จากการทดสอบในเดือนกรกฎาคม 2558  ซึ่งขณะนั้นยังไม่มีการเผยโฉม Mitsubishi Pajero Sport ใหม่)  ฟอร์ดออกแบบได้สวยงามลงตัวไม่แพ้ Toyota Fortuner  แต่ในการตัดสินใจเลือกซื้อ ก็ต้องคำนึงเรื่องการบริการและงานซ่อมของศูนย์บริการ  เพราะฟอร์ดประเทศไทยยังไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับคนไทยได้  ทุกคนต้องการซื้อรถเพื่อนำไปใช้งานทุกวันอย่างสบายใจ ไม่มีปัญหาจุกจิก ไม่ต้องซ่อมบ่อย  ฟอร์ดทำรถออกมาได้ดีอยู่แล้ว แต่เสียดายที่บริการหลังการขายในไทยยังไม่ดีพอ  ซึ่งปีนี้ฟอร์ดประเทศไทย ได้มีการปรับปรุงศูนย์บริการให้ดีขึ้นกว่าเดิมแล้ว สังเกตได้ถึงเสียงบ่นจะน้อยลงกว่าแต่ก่อน

ข้อสังเกตอีกอย่างก็คือ อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันในขณะขับแบบออฟโรดบนเส้นทางสุดโหดอย่างที่ทดสอบกันสลับกับออนโรดบนทางหลวง  ข้อมูลบนจอแสดงอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 7 km/L  ถ้าขับแบบออนโรดอย่างเดียว เน้นใช้งานในเมืองเป็นส่วนใหญ่ ก็คาดว่าอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยน่าจะอยู่ที่ 7-11 km/L ตามลักษณะการขับขี่  แต่จากที่คุยกับคณะสื่อมวลชน พบว่าผู้ใช้รถ SUV / PPV ไม่ได้เน้นเรื่องอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่แล้ว เน้นไปที่ระบบการชับขี่ 4WD มากกว่า  และปัจจุบันราคาน้ำมันดีเซลก็มีแนวโน้มลดต่ำลงเรื่อย ๆ

สำหรับอัตราสิ้นเปลืองที่แสดงบนจอภาพที่ระบุ 7 km/L นั้น หมายถึงตลอดทั้งทริปของการทดสอบโดยคณะสื่อมวลชนทั้งวัน รวมระยะทางประมาณเกือบร้อยกิโลเมตร  หากแบ่งตามช่วงเวลาที่มีการใช้รถยนต์ทดสอบ ประกอบด้วยการขับออนโรดบนทางหลวงพื้นราบ 15%  ขับออนโรดขึ้นเขาลงห้วยกับติดเครื่องจอดรอเฉย ๆ รวมกัน 85% เพราะอยู่บนเส้นทางบนภูเขาเป็นส่วนใหญ่นานหลายชั่วโมง  แต่ทั้งหมดเป็นการทดสอบให้เห็นสมรรถนะแบบครบถ้วน ทดสอบทุกฟังก์ชันของระบบช่วยขับเคลื่อนผ่านอุปสรรคในแต่ละเส้นทาง  สำหรับลูกค้าทั่วไปก็คงซื้อ Ford Everest มาใช้งานปกติ  สัดส่วนการวิ่งบนพื้นราบต้องมากกว่าขึ้นเขาอยู่แล้ว อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันโดยเฉลี่ยก็จะได้ตัวเลขที่ดีกว่านั้น

อย่างไรก็ตาม ฝากผู้อ่านที่สนใจลองไป Test Drive ที่ศูนย์บริการ เพื่อพิสูจน์ด้วยตนเองว่าสมรรถนะและเทคโนโลยีที่ให้มาถือว่าคุ้มค่าจริง ๆ ครับ ^__^

FORD EVEREST ใหม่ โดดเด่นด้วยประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์ ลดแรงเสียดทาน เพิ่มประสิทธิภาพ และความราบรื่นในการขับขี่สูงสุด

$
0
0

FORD EVEREST ใหม่ โดดเด่นด้วยประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์
ลดแรงเสียดทาน เพิ่มประสิทธิภาพ และความราบรื่นในการขับขี่สูงสุด

Everest Aerodynamic Infographic TH

กรุงเทพฯ ประเทศไทย, 10 สิงหาคม 2558 – ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ชูประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์ ที่ได้รับการออกแบบให้ตัวรถมีความลู่ลมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพมากที่สุด ด้วยค่าตัวเลขสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานเพียง 0.389 โดยทีมวิศวกรของฟอร์ดใช้การจำลองการไหลของอากาศ และการทดสอบในอุโมงค์ลม เพื่อให้ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ เป็นรถอเนกประสงค์แบบออฟโรดประสิทธิภาพสูง ที่ผสมผสานการออกแบบภายนอกโฉบเฉี่ยวแต่แข็งแกร่ง ภายในตกแต่งประณีต ทันสมัย เพรียบพร้อมทุกฟังก์ชั่นการใช้งาน

หลักการออกแบบของฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ จะเน้นให้อากาศไหลผ่านตัวรถอย่างราบรื่น ลดแรงเสียดทานให้น้อยที่สุด ถึงแม้ว่าตัวรถยังต้องการอากาศเพื่อระบายความร้อนออกจากเครื่องยนต์ ระบบส่งกำลังรวมถึงองค์ประกอบอื่นๆ วิศวกรจึงต้องหาจุดสมดุลระหว่างปริมาณอากาศที่ต้องการใช้กับประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์เพื่อให้ตัวรถมอบการประหยัดน้ำมันและเกิดประสิทธิผลสูงสุด

หนึ่งในองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยจัดการการไหลเวียนของอากาศคือชุดกันชนหน้าส่วนล่าง (under shield) ที่มีรูปร่างแบบสามมิติ ได้รับการออกแบบอย่างชาญฉลาด และถูกจำลองการออกแบบหลายร้อยครั้ง เพื่อช่วยให้อากาศไหลเข้าใต้ท้องรถและบริเวณล้อหน้า ชิ้นส่วนนี้ยังช่วยให้อากาศไหลตรงเข้าสู่ตัวรถเพื่อระบายความร้อนซึ่งหมายถึง

  • Active Transfer Case ในระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ถูกระบายความร้อนดีขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพการขับแบบออฟโรดมากขึ้น
  • เครื่องยนต์ ถูกระบายความร้อนดีขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานสูงสุด
  • ตัวรถมีแรงต้านลมน้อยลง เพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมัน

ทุกส่วนประกอบของฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์ตั้งแต่การออกแบบฝากระโปรงด้านหน้าที่ช่วยให้ลมไหลผ่านกระจกหน้า ไปถึงแถบคิกเกอร์ที่ติดตั้งอยู่ที่ตัวถังด้านท้ายช่วยให้อากาศกระทบพื้นผิวตัวรถน้อยที่สุด ลดแรงต้านอากาศลงได้ กระจกมองข้างทั้งสองถูกออกแบบให้ลดเสียงลมได้สูงสุดถึง 10 เดซิเบล ในขณะที่ขับรถโดยเปิดหน้าต่างทิ้งไว้ ด้วยการออกแบบตัวรถอย่างเอาใจใส่ จึงทำให้ห้องโดยสารของ เอเวอเรสต์ ใหม่ เงียบมากขึ้น มอบความสะดวกสบายสูงสุดแก่ผู้ขับขี่และผู้โดยสารตลอดการเดินทาง

ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ราคาเริ่มต้นที่ 1,269,000 บาท สำหรับรุ่นเครื่องยนต์ขนาด 2.2 ลิตร ไทเทเนี่ยม แบบขับเคลื่อนสองล้อ ส่วนรุ่นเครื่องยนต์ขนาด 3.2 ลิตร ไทเทเนี่ยม แบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ราคาอยู่ที่ 1,459,000 บาท และสำหรับรุ่นเครื่องยนต์ขนาด 3.2 ลิตร ไทเทเนี่ยม พลัส แบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ราคาอยู่ที่ 1,599,000 บาท

TH Everest Aerodynamic - Social_TH

ที่สุดแห่งประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟกับ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่

$
0
0

ที่สุดแห่งประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟกับ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่

All-New Ford Everest

กรุงเทพฯ ประเทศไทย, 2 กันยายน 2558 – ฟอร์ด ประเทศไทย จัดงานสุดเอ็กซ์คลูซีฟ An Extraordinary Night with All-New Ford Everest ค่ำคืนสุดพิเศษกับการเปิดตัวฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ณ เดอะ เฮ้าส์ ออน สาทร (The House on Sathorn) อาคารสไตล์โคโลเนียลหลังงามอายุกว่า 126 ปี ซึ่งตั้งอยู่บนแยกสาทรและนราธิวาส เพื่อเปิดโอกาสให้แขกวีไอพีและเซเลบริตี้ได้สัมผัสกับที่สุดแห่งประสบการณ์การใช้ชีวิตในแง่มุมต่างๆ และร่วมพูดคุยกับเหล่าเซเลบริตี้ชื่อดังของเมืองไทย ไม่ว่าจะเป็น หม่อมหลวงคฑาทอง ทองใหญ่ ผู้อำนวยการสำนักงานผลิตภัณฑ์และเพิ่มมูลค่าสินค้า กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ นักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรง และ คุณคณชัย เบญจรงคกุล ช่างภาพมืออาชีพผู้มองโลกผ่านเลนส์ นอกจากนี้ ยังได้ลิ้มลองเครื่องดื่มสูตรพิเศษที่ออกแบบโดย คุณณิกษ์ อนุมานราชธน มิกโซโลจิสต์เปี่ยมความสามารถของเมืองไทยที่ช่วยเสกให้ค่ำคืนนี้เอ็กซ์คลูซีฟกว่าค่ำคืนใด

Ford Everest ใหม่ ภายในห้องโดยสารให้สัมผัสหรูหราระดับที่นั่งชั้นธุรกิจ

$
0
0

Ford Everest ใหม่ ภายในห้องโดยสารให้สัมผัสหรูหราระดับที่นั่งชั้นธุรกิจ

image006

  • พร้อมออกเดินทางอย่างมีเอกลักษณ์บนเส้นทางเรียบและเส้นทางออฟโรดไปกับฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ มาพร้อมการออกแบบภายในที่หรูหราแต่แข็งแกร่ง มอบความสะดวกสบายอย่างเหนือชั้นด้วยห้องโดยสารถึง 7 ที่นั่ง
  • เทคโนโลยีการตัดเสียงรบกวน (Active Noise Cancellation) ที่ช่วยมอบความเงียบสงบภายในห้องโดยสารที่สอดประสานกับการออกแบบภายในที่ประณีตหรูหรา
  • มอบประสบการณ์การขับขี่สะดวกสบายสำหรับสมาชิกทุกคนในครอบครัวด้วยเบาะที่นั่งกว้างขวางและเลือกปรับระดับได้ตามต้องการ และสามารถควบคุมอุณหภูมิในตำแหน่งเบาะนั่งแถวที่สอง และปรับช่องลมสำหรับเบาะนั่งทั้ง 3 แถวได้โดยสะดวก
  • ระบบสั่งงานด้วยเสียงซิงค์ 2 (SYNC 2) และแผงหน้าปัดควบคุมแบบหน้าจอคู่ ช่วยแจ้งเตือนและแสดงข้อมูลดิจิตอลต่างๆ ภายในรถยนต์อย่างครบครัน ทำให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องละมือจากพวงมาลัยและมีสมาธิในการขับขี่บนท้องถนนได้อย่างปลอดภัย

กรุงเทพฯ ประเทศไทย, 28 กันยายน 2558 –ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ มาพร้อมประสิทธิภาพการขับขี่บนเส้นทางออฟโรดที่สมบุกสมบันได้อย่างเหนือชั้น และการออกแบบภายในที่ประณีตยังช่วยยกระดับมาตรฐานแห่งความสะดวกสบายให้กับตลาดรถยนต์อเนกประสงค์แบบออฟโรด

ห้องโดยสารภายในของฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่นี้ ครบครันด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัยและชาญฉลาดต่างๆ มากมาย ผสานกับการออกแบบที่ประณีตสอดคล้องกันอย่างลงตัวกับวัสดุภายในที่ให้ความรู้สึกหรูหราและแข็งแกร่ง พร้อมด้วยเบาะหนังแท้สัมผัสนุ่มสีเบจที่จะช่วยมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบายแก่ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารไม่ว่าจะเป็นบนเส้นทางเรียบหรือเส้นทางออฟโรด

และเพื่อรับประกันความเงียบภายในห้องโดยสาร ทีมวิศวกรฟอร์ดได้ประยุกต์ใช้วัสดุเก็บเสียงต่างๆ รวมถึงการออกแบบส่วนด้านหน้าของรถเป็นพิเศษโดยใช้กระจกบังลมหน้าแบบป้องกันเสียงรบกวน (acoustic glass) เพื่อช่วยตัดเสียงจากเครื่องยนต์และเสียงอื่นๆ บนท้องถนน ยิ่งไปกว่านั้น ทีมวิศวกรด้านอากาศพลศาสตร์ของฟอร์ดได้ทำการทดลองหลายพันครั้งเพื่อคิดค้นโครงสร้างตัวรถที่สามารถเคลื่อนผ่านอากาศได้อย่างราบรื่น พร้อมทั้งพัฒนากระจกมองข้างเพื่อลดความดังของเสียงลมในขณะที่ขับขี่โดยเปิดกระจกลงอีกด้วย นอกจากนี้ ทีมวิศวกรฟอร์ดยังออกแบบแท่นรองเครื่องยนต์แบบไฮดรอลิคเพื่อลดการสั่นสะเทือนของเครื่องยนต์ ทำให้ผู้ขับขี่ได้รับประสบการณ์การขับขี่ที่นุ่มนวลยิ่งขึ้น

ความก้าวหน้าทางด้านวิศวกรรมศาสตร์มาควบคู่กับเทคโนโลยีการตัดเสียงรบกวน (Active Noise Cancellation) ที่ช่วยทำให้ห้องโดยสารภายในเงียบที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในระหว่างการขับขี่ เทคโนโลยีดังกล่าวจะทำงานคล้ายคลึงกับระบบตัดเสียงของหูฟังโทรศัพท์ โดยระบบจะใช้ไมโครโฟน 3 ตัว เพื่อตรวจจับเสียงเครื่องยนต์ที่คลื่นความถี่ต่ำ จากนั้นจึงปล่อยคลื่นออกทางลำโพงเครื่องเสียงเพื่อกลบเสียงรบกวน ผู้โดยสารจึงสามารถสนทนากันได้อย่างสะดวกสบายไม่ว่าจะนั่งอยู่บริเวณเบาะด้านหน้าสุดไปจนถึงเบาะที่นั่งแถว 3 ด้านหลัง

และสำหรับฟอร์ด ไม่มีรายละเอียดใดที่เล็กน้อยเกินไปสำหรับการออกแบบแผงเครื่องปรับอากาศภายในรถ ทีมนักออกแบบฟอร์ดได้คัดสรรวัสดุโครเมียมที่มีความเงาหรูหราเพื่อขับเน้นให้แสงและเงาต่างๆ เด่นชัดขึ้น นอกจากนี้ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ได้ประยุกต์ใช้วัสดุที่ประณีตสำหรับองค์ประกอบต่างๆ ภายในรถยนต์ที่ผู้ขับขี่และผู้โดยสารต้องสัมผัสอยู่เสมอ เช่น ที่เปิดประตู หรือขอบประตูรถ เพื่อมอบความรู้สึกที่ละเอียดอ่อนยิ่งขึ้น

สำหรับนักดาราศาสตร์มือสมัครเล่น หรือแม้กระทั่งผู้ที่ชื่นชอบการดูดาวเป็นกิจวัตร ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ยังมาพร้อมหลังคาแบบมูนรูฟที่ครอบคลุมบริเวณเบาะนั่งแถวหน้าถึงเบาะนั่งแถวที่ 2 ให้เป็นเสมือนหน้าต่างสู่ท้องฟ้าและหมู่ดาว

ความสะดวกสบายและความประณีตนับเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้โดยสารทุกคน ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ จึงมาพร้อมเบาะที่นั่งอันกว้างขวางและสามารถปรับระดับได้เพื่อให้มั่นใจว่าผู้โดยสารทุกคนบนรถจะรู้สึกได้ถึงความสะดวกสบาย ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ขับขี่และผู้โดยสารในตำแหน่งเบาะนั่งแถวแรกสามารถเลือกปรับระดับเบาะแบบไฟฟ้าได้ถึง 8 ทิศทาง เบาะนั่งแถวที่สองสามารถเลือกปรับเอนได้ มาพร้อมที่วางแขนแบบพับได้ในสัดส่วน 60 ต่อ 40 และสามารถเลือกปรับอุณหภูมิและความแรงพัดลมในเครื่องปรับอากาศ พร้อมทั้งยังมีช่องต่อไฟสำหรับชาร์จโน๊คบุ๊ค และช่องต่อไฟเสริมขนาด 12 โวลต์เพื่อชาร์จโทรศัพท์มือถืออีกด้วย เบาะนั่งแถวที่สามสามารถพับเรียบแบบไฟฟ้าได้เพียงแค่การกดปุ่ม โดยเมื่อพับเรียบเบาะนั่งแถวที่สองและสามแล้ว สามารถรองรับการบรรทุกสัมภาระได้ถึง 2,010 ลิตร

ห้องโดยสารภายในรถฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ได้ผ่านการออกแบบมาเพื่อความอเนกประสงค์ที่จะพาคุณไปได้ทุกที่ ด้วยช่องเก็บของกว่า 30 ช่อง ซึ่งรวมแล้วสามารถบรรจุสัมภาระได้ 48 ลิตร คุณจึงมั่นใจได้ว่าจะมีพื้นที่เพียงพอสำหรับทุกสิ่ง รวมถึงช่องใส่ของด้านหน้าที่ได้รับการออกแบบมาสำหรับเก็บคอมพิวเตอร์โน๊คบุ๊คขนาด 16 นิ้วและพื้นที่เก็บของด้านหลังสำหรับวางอุปกรณ์ตีกอล์ฟ

การเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ขณะขับขี่ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ถือเป็นเรื่องง่าย ด้วยแผงหน้าปัดควบคุมแบบหน้าจอคู่ความละเอียดสูง ผู้ขับขี่สามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ได้เพียงชำเลืองมอง นอกจากนี้ ผู้ขับขี่ยังสามารถเลือกปรับข้อมูลการแสดงผลต่างๆ ได้ตามความต้องการ ตั้งแต่ข้อมูลระบบความบันเทิงไปจนถึงการบอกปริมาณน้ำมันในถัง โดยเปรียบเทียบปริมาณน้ำมันคงเหลือกับระยะทาง หรือแม้กระทั่งข้อมูลการขับขี่บนเส้นทางออฟโรด อัตราการจ่ายแรงบิดของแต่ละล้อ และอื่นๆ อีกมากมาย

และเพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถเชื่อมต่อกับเทคโนโลยีต่างๆ ภายในรถยนต์ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่ ได้นำเสนอระบบสั่งงานด้วยเสียง ซิงค์ 2 (SYNC 2) ซึ่งเป็นระบบเชื่อมต่อการสื่อสารภายในรถยนต์ ซิงค์ 2 ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมระบบความบันเทิง ระบบปรับอากาศได้อย่างสะดวกสบาย และยังสามารถโทรศัพท์และอ่านข้อความได้ผ่านคำสั่งเสียงด้วยรูปแบบประโยคที่ง่ายและเป็นธรรมชาติมากขึ้นอีกด้วย

Viewing all 35 articles
Browse latest View live